“วีริศ” หารือผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ และเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์บูรณาการความร่วมมือท้องถิ่นแก้ปัญหาน้ำท่วมแนวทางรถไฟ เจาะท่อลอดเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำ พร้อมวางแนวทางพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระบบรางอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 5-6 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยผู้บริหารรฟท. ได้ลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหารือร่วมกับนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ ภาครัฐและท้องถิ่น เพื่อจัดการปัญหาน้ำท่วมและพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณเขตรถไฟ ควบคู่กับการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่รอบทางรถไฟให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน
นายวีริศเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในเขตเมืองประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงการดำเนินโครงการขุดลอกลำรางเลียบทางรถไฟ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่รอบทางรถไฟ ลดผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และเกษตรกรสามารถนำน้ำไปใช้ในช่วงฤดูแล้งได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ยังอนุมัติการเจาะท่อลอดทางรถไฟ เพื่อเชื่อมการระบายน้ำจากเขื่อนเพชรลงสู่ระบบทางน้ำในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังลงพื้นที่สำรวจสนามกอล์ฟหลวงหัวหินของการรถไฟฯ ในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้การดูแลของการรถไฟฯ เพื่อพิจารณานำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ร่วมกันระหว่างการรถไฟฯ กับชุมชนโดยรอบ
“รฟท.พร้อมสนับสนุนการนำพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยไม่กระทบต่อการดำเนินงานด้านระบบราง การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับทราบปัญหาและความต้องการของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อย่างชัดเจน ทั้งนี้ พื้นที่หลายส่วนของการรถไฟฯ เป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๖ จึงเป็นความภาคภูมิใจที่จะได้ร่วมกันพัฒนาเพื่อเมืองของพระราชาอย่างแท้จริง” ผู้ว่าฯ รฟท.กล่าว
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากการประชุมและสำรวจพื้นที่เมื่อวันที่ 22-23 สิงหาคม 2568 ณ อำเภอหัวหิน ในการวางแนวทางพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟควบคู่กับการเชื่อมต่อระบบคมนาคมและเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีแผนขยายเส้นทางการเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ปราณบุรี กุยบุรี และบางสะพานน้อย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่เข้าถึงได้ยากด้วยรถยนต์หรือเครื่องบิน
อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ มีเป้าหมายพัฒนาระบบรางให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนได้อย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมทั้งพัฒนาพื้นที่สถานีรถไฟให้รองรับระบบขนส่งสาธารณะในอนาคต เช่น รถโดยสารประจำทาง รถบัส และรถทัวร์ เพื่อให้เกิดการเดินทางต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อ (Seamless Travel) โดยเฉพาะในพื้นที่หัวหิน ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสำคัญที่สามารถฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตชีวาและคึกคักเหมือนเดิม