ก๊าซธรรมชาติและ LNG เป็นเชื้อเพลิงสำคัญช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่ Net Zero ที่ช่วยรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน กฟผ. ร่วมย้ำความสำคัญ พร้อมอัปเดตเทคโนโลยีพลังงานสะอาด “โซลาร์ลอยน้ำ ระบบกักเก็บพลังงาน ไฮโดรเจน และโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ” บนวที Gastech 2025
นางกัลยกร ซูซูกิ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหาและบริหารสัญญาเชื้อเพลิง กฟผ. เป็นผู้แทน กฟผ. กล่าวเสวนาบนเวทีงาน Gastech 2025 ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ว่า ก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มีบทบาทสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของไทย เป็นเชื้อเพลิงช่วงเปลี่ยนผ่านที่ช่วยลดลดการพึ่งพาถ่านหินและน้ำมัน เสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า รองรับการขยายตัวของพลังงานหมุนเวียนที่ยังไม่เสถียร ดังนั้นในระหว่างนี้ ก๊าซธรรมชาติจึงทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานเพื่อรักษาสมดุลระบบไฟฟ้า และยังต่อยอดโครงข่ายก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ไปสู่การใช้เชื้อเพลิงอนาคตได้ เช่น ไฮโดรเจน
นอกจากการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า กฟผ. ได้เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพลังงานสะอาดต่อเนื่อง ได้แก่ 1) โซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) โดยเริ่มจากโครงการต้นแบบ 45 เมกะวัตต์ ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 36 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าขยายกำลังผลิตรวม 2,725 เมกะวัตต์ ภายใน 10 ปี 2) ระบบกักเก็บพลังงาน ผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ (Pumped-storage Hydropower) เพื่อเก็บไฟฟ้าและจ่ายคืนในช่วงความต้องการสูง 3) ไฮโดรเจนและเทคโนโลยีอนาคต เช่น การทดลอง Hydrogen co-firing ในโรงไฟฟ้าของ กฟผ. การใช้แอมโมเนีย และเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCUS) 4) โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ได้แก่ ศูนย์พยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Forecast Center), Smart Grid และ Virtual Power Plant ทั้งนี้ เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงทางพลังงานซึ่งเป็นภารกิจหลักของ กฟผ.
สำหรับงาน Gastech 2026 ในปีหน้าซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ จะเป็นเวทีสำคัญระดับนานาชาติในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทั้งในภูมิภาคเอเชียและในระดับโลก อีกทั้งยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการสนับสนุนการลงทุนและนวัตกรรมที่จำเป็นต่อการสร้างอนาคตพลังงานที่เข้มแข็ง ยั่งยืน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการปรับโครงสร้างพลังงานและพัฒนาพลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยงาน Gastech 2026 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 15 – 18 กันยายน 2569 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค (BITEC) กรุงเทพมหานคร