xs
xsm
sm
md
lg

“เวียตเจ็ทไทยแลนด์”ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 1.5 หมื่นล. เตรียมรับมอบเครื่องบินใหม่ 50 ลำ ใน 4 ปี รองรับขยายเส้นทางเอเชีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เวียตเจ็ทไทยแลนด์”ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 1.5 หมื่นล้าน คาดทะลุ 5 หมื่นล้านภายใน 4-5 ปี หลังรับมอบเครื่องบินใหม่ 50 ลำ เริ่มล็อตแรกปีนี้ 9 ลำรองรับขยายเส้นทางบินตลาดญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย แนวโน้มเติบโตสูง

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เปิดเผยว่า สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้วางกลยุทธ์การเติบโตเชิงรุกในปี 2568–2571 พร้อมวางแผนอนาคต เพื่อผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน โดยมีการขยายฝูงบิน และเพิ่มเครือข่ายเส้นทางบิน ลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสาร

โดยในปี 2567 ผลการดำเนินงานของ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ มีกำไรเป็นปีแรก โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 6.7 ล้านคน เป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 4.2 ล้านคน ระหว่างประเทศ 2.5 ล้านคน ส่วนปี 2568 ผู้โดยสารจีนลดลง ประมาณ 30% ซึ่งกระทบในภาพรวม แต่มีตลาดทดแทน เช่น เวียดนามที่เติบโตประมาณ 5-6% ตลาดอินเดีย ที่มีการเปิดเส้นทางบินตั้งแต่ปลายปี 2567 มีการเติบโตเพิ่ม 3 เท่า โดยช่วง 8 เดือนปี 2568 มีรายได้ที่ 7,500 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีรายได้จะอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท มีผู้โดยสารประมาณ 6.7-6.8 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2567

ขณะนี้เวียตเจ็ทไทยแลนด์อยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเตรียมรับมอบอากาศยานใหม่ โบอิ้ง 737-8 เพิ่มอีก 50 ลำ ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ในปี 2568 มีแผนรับมอบเครื่องบิน จำนวน 9 ลำ ปี 2569 รับมอบ 13 ลำ และรับมอบครบ 50 ลำ ในปี 2571 ซึ่งคาดว่าจะทำให้รายได้เติบโตไปอยู่ที่ 50,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมกันนี้จะต้องมีการเพิ่มจำนวนพนักงาน เพื่อรองรับเครื่องบินและเส้นทางบินที่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน มีพนักงาน 1,300 คน (คนไทย 98% ต่างชาติ 2%) จะสร้างงานกว่า 4,000 - 5,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมนักบิน พนักงานต้อนรับ พนักงานภาคพื้นดิน และฝ่ายวิศวกรรม ควบคู่ไปกับการยกระดับด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม 


ปัจจุบันมีฝูงบิน 18 ลำ ในปี 2568 มีแผนรับมอบเครื่องบินใหม่ จำนวน 9 ลำ กำหนดส่งมอบลำแรกในเดือนเดือนตุลาคม 2568 และมีการคืนเครื่องเช่า 4 ลำทำให้ในปี 2568 จะมีฝูงบินรวมที่ 23 ลำ เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางการบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเชื่อมต่อเมืองหลัก–เมืองรองในไทยกับเมืองสำคัญทั่วเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และเวียดนาม และตามแผนรับมอบเครื่องบิน ปี 2569 อีก 13 ลำ และคืนเครื่องเช่าอีก 5 ลำ

การขยายฝูงบินครั้งนี้ไม่เพียงแต่รองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นการยกระดับศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยเวียตเจ็ทไทยแลนด์มีการเติบโตด้านธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่รายได้ ปริมาณผู้โดยสาร และเครือข่ายเส้นทางบิน สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารและคู่ค้า โดยมุ่งมั่นนำเสนอการเดินทางที่สะดวกสบาย ราคาคุ้มค่า และตรงเวลา

“การเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นแผนการขยายฝูงบินทั้งในระยะสั้นและกลาง เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบินให้บริการ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ จะเป็ฯสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุด และยังเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์ที่รุนแรง และสร้างความพร้อมให้ไทยก้าวสู่การเป็นฮับการบินในภูมิภาค”

นายวรเนติ กล่าวว่า ในอีก 2 ปี ข้างหน้าเชื่อว่า จะเกิดปัญหาขาดแคลนนักบิน ซึ่งปัจจุบัน มี 18 ลำ ใช้นักบินประมาณ 180 คน หรือ 10 คนต่อลำ เมื่อเพิ่มฝูงบินเป็น 50 ลำ เท่ากับต้องการนักบินเพิ่มอีก 320 คน ซึ่งได้มีแนวทางในการผลิตนักบินรองรับ ในฐานะสายการบินยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอยู่เสมอ โดยได้เปิดโอกาสให้ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ผู้มีประสบการณ์ทำงาน รวมถึงผู้ที่มีความมุ่งมั่นในสายอาชีพด้านการบินได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร


นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เวียตเจ็ทไทยแลนด์สามารถสร้างการเติบโตของผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และตอบสนองความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่

โดยในปีนี้ เวียตเจ็ทไทยแลนด์เตรียมเปิดเส้นทางใหม่ 5 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ–โซล (อินชอน) เริ่ม 1 ตุลาคม 68 , กรุงเทพฯ–โกลกาตา เริ่ม 16 พฤศจิกายน 68 , กรุงเทพฯ–โอซาก้า (คันไซ) เริ่ม 1 ธันวาคม 68 ,กรุงเทพฯ–โตเกียว (นาริตะ)เริ่ม 15 ธันวาคม 68 และกรุงเทพฯ–อาห์เมดาบัด เริ่ม 4 ธันวาคม 68 เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนเส้นทางในประเทศ จะมีการเปิดบินเส้นทาง กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช กลางเดือนธันวาคม 68 และเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ เส้นทางภูเก็ต-เพิร์ธ (ออสเตรเลีย) ช่วงไตรมาส 4/2569 พร้อมกับเตรียมมอบประสบการณ์การบินที่น่าประทับใจด้วยการให้บริการด้านความบันเทิงบนเที่ยวบิน (In-Flight Entertainment)

“การเปิดเส้นทางบินใหม่ ได้ผลการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร โดยเฉพาะเส้นทาง โซล มียอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า (Booking) ตั้งแต่ ก.ค. 2568 ที่ผ่านมาแล้วกว่า 60-70% และมั่นใจว่าเมื่อเปิดทำการบิน จะมี Load Factor เกิน 80% เช่นเดียวกับเส้นทางสู่นาริตะ และโอซาก้า จะมี Load Factorไม่ต่ำกว่า 80% เนื่องจากเป็นเส้นทางยอดนิยมในการเดินทางช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season)”


นางสาวสญาดา เบญจกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งด้านธุรกิจ และการสร้างสมดุลกับสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงเป็นแรงผลักดันในการสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยมีการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติและกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว สอดคล้องกับนโยบาย ‘Fly Green’ ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

พร้อมเดินหน้าศึกษาและส่งเสริมการใช้ Sustainable Aviation Fuel (SAF) ควบคู่กับการนำเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น A321neo และ Boeing 737-8 ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลงได้ถึง 15–20% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม


กำลังโหลดความคิดเห็น