"สุริยะ" แจงการแก้ร่าง พ.ร.บ.อีก 2 ฉบับในสภาฯ เสร็จไม่ทันกับกำหนด กฤษฎีกาแจ้งใช้งบกลางไม่ได้เหตุไม่เร่งด่วน ต้องเลื่อนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ใช้จริง 15 พ.ย. 68 ส่วนสายสีแดง-ม่วง ใช้เกิน 20 บาทเหมือนเดิม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการดำเนินมาตรการอัตราค่ารถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือ 20 บาทตลอดสาย ที่ในปัจจุบันได้ดำเนินการมาแล้วเกือบ 2 ปีในโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยจากผลการดำเนินนโยบาย พบว่าได้ผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าในอนาคตปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากนโยบายดังกล่าวช่วยลดค่าครองชีพในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียม มีความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมช่วยลดรถยนต์บนถนน ลดอุบัติเหตุ และมลพิษทางอากาศอย่างมีนัยสำคัญด้วย
สำหรับในขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เร่งผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) 2 ฉบับ เพื่อสนับสนุนมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ระยะที่ 2 ประกอบด้วย 1. ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... (พ.ร.บ.ตั๋วร่วม) และ 2. พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 (พ.ร.บ.รฟม.) โดยขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ส.ส.) ครบทุกมาตราแล้ว และผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อไป
นายสุริยะกล่าวว่า หากดูจากกรอบระยะเวลาในตอนนี้ พบว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับตามขั้นตอนของกฎหมายอาจจะไม่ทันกับกำหนดการเปิดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เนื่องจากการประกาศใช้มาตรการฯ จะต้องรอการประกาศกฎหมายลูก ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 45 วัน คาดว่า จะสามารถประกาศใช้ได้ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 10 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว, สีทอง, สีเหลือง, สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีม่วง, สีแดง และแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) รวมระยะทาง 276.84 กิโลเมตร (กม.) ทั้งสิ้น 194 สถานี
สำหรับการประกาศใช้มาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตั๋วร่วม คือ การจัดตั้ง "กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม" ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการชดเชยส่วนต่างของรายได้ค่าโดยสารให้แก่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าต่างๆ เพื่อให้สามารถเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสายได้จริง จึงต้องแก้ไขกฎหมาย ซึ่งถ้าไม่ต้องแก้กฎหมายสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา ประกอบกับกระทรวงการคลังกำหนดให้ต้องแก้ไข พ.ร.บ.รฟม. ด้วย
ในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับในขณะนี้ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาหาแนวทางอื่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน เช่น การขอรับการจัดสรรงบกลาง แต่ภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ระบุว่าไม่สามารถเสนอของบกลางได้ เนื่องจากไม่ใช่เหตุเร่งด่วน รวมถึงแนวทางการเริ่มมาตรการก่อน แล้วเมื่อ พ.ร.บ.ฯ ผ่านการพิจารณาและมีผลบังคับใช้ แล้วนำมาชำระย้อนหลังนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคม ได้พยายามดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในทุกเส้นทางตามที่เคยกำหนด เพื่อลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้พี่น้องประชาชน แต่ด้วยจะต้องรอกระบวนการทางกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป
นายสุริยะกล่าวว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงนั้น ยืนยันว่ายังคงใช้ราคาเดิม ซึ่งประชาชนยังคงใช้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนขอกราบขอโทษประชาชน ซึ่งภายหลังจากนี้กระทรวงฯ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายอย่างแน่นอน