เปิดโผ 30 เส้นทางใหม่ รถเมล์ใหม่ "คมนาคม" พัฒนาเป็นฟีดเดอร์เชื่อมรถไฟฟ้าและ 20 บาทตลอดสาย คาดมีผู้โดยสารใช้ระบบรางเพิ่ม จับมือ "กทม." เก็บข้อมูล สถิติ ปัญหา เริ่มนำร่องต้นปี 69
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
จากการประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการบริหารจัดการด้านการจราจรเพื่อพัฒนาระบบเชื่อมโยงและจัดระบบขนส่งมวลชนที่เป็นฟีดเดอร์ (Feeder) รองรับมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทาง เนื่องจากประเมินว่ารูปแบบการเดินทางในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลจะเปลี่ยนไปเน้นระบบรางมากขึ้น โดยในส่วนของรถโดยสาร ขสมก.จะมีการปรับใช้เป็นรถ EV การจัดเส้นทางต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับรูปแบบการเดินทางในปัจจุบัน
ในความร่วมมือกับ กทม.จะเป็นอีกส่วนที่จะพัฒนาเส้นทางรถเมล์ใหม่ ซึ่งทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาระบบการคมนาคมเพื่อเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ต่อเนื่อง (ปี 2568-2569) โดยจะศึกษาการปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทางใหม่ในเขตกรุงเทพฯ รวมถึงการกำหนดอัตราค่าโดยสาร แนวคิดการใช้ระบบตั๋วร่วม และแนวทางการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเพิ่มปริมาณผู้โดยสาร รวมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคสถานการณ์รถโดยสารสาธารณะที่ให้บริการในปัจจุบัน
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล สถิติ ปัญหา รูปแบบการเดินทาง สภาพปัจจุบัน ก่อนนำไปวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคและเส้นทางที่มีปัญหาต่างๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2568 ส่วนการวิเคราะห์เส้นทางรถโดยสารประจำทางใหม่ทั้งระบบในกรุงเทพฯ จะนำแนวเส้นทางของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ กทม.มาพิจารณาร่วมกัน คาดว่าจะได้ข้อเสนอแนวเส้นทางใหม่ภายในปลายเดือนมกราคม 2569
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก สนข.มีการศึกษารถเมล์เส้นทางใหม่ 111 เส้นทางในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และไม่ทับซ้อนกับเส้นทางในแผนปฏิรูปรถเมล์ 269 เส้นทาง เพื่อรองรับและเชื่อมต่อชุมชน หมู่บ้านที่เกิดใหม่ โดยมีเส้นทางใน กทม.ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ประมาณ 30 เส้นทาง ซึ่งจะมีการประเมินความเหมาะสมและความต้องการพิจารณาให้เป็นฟีดเดอร์กับรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ด้วย
ตามหลักการ เมื่อ กทม.เสนอเส้นทางดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางจะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติเส้นทางที่เหมาะสมต่อไป
@เปิด 30 เส้นทางรถเมล์ กระจายทั่ว กทม.-ปริมณฑล
รายงานข่าวจาก กทม.ระบุว่า ปัจจุบัน กทม.มีบริการ BMA Feeder เดินรถ Shuttle Bus เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าสู่รถไฟฟ้า โดยเป็นการให้บริการฟรีเพื่อทดสอบความต้องการของตลาด หากมีปริมาณผู้โดยสารในระดับที่สามารถดำเนินการได้ จะเปิดให้เอกชนเข้ามาทำการเดินรถต่อไป เน้นเส้นทางที่มีความจำเป็นและเสนอกรมการขนส่งฯ ตามขั้นตอน
สำหรับผลการศึกษา 30 เส้นทางใน กทม. มีดังนี้ 1. พื้นที่ชั้นใน 10 เส้นทาง แบ่งเป็น
ช่วงสามยอด 3 เส้นทาง ได้แก่ A1 สนามไชย-บางลำพู, A2 วงกลมสามยอด-ผ่านฟ้าฯ-เสาชิงช้า และ A3 วงกลมสถานีสามยอด-ท่าสะพานพุทธ
ช่วงเพลินจิต-ลุมพินี 4 เส้นทาง ได้แก่ A4 วงกลมชิดลม-สีลม-ร่วมฤดี, A5 วงกลมเพลินจิต-ลุมพินี, A6 วงกลมชิดลม-วิทยุ และ A7 สถานีพร้อมพงษ์-ตลาดคลองเตย
ช่วงจุฬาฯ-ราชเทวี 3 เส้นทาง ได้แก่ A8 สามย่าน-เจริญผล-ประตูน้ำ, A9 วงกลมจุฬาฯ-บรรทัดทอง และ A10 วงกลมสถานีหัวลำโพง-บรรทัดทอง
2. พื้นที่ชั้นกลาง 10 เส้นทาง แบ่งเป็น
โซนห้วยขวาง 3 เส้นทาง ได้แก่ B1 สำนักงานเขตห้วยขวาง-ตลาดห้วยขวาง, B2 วงกลมสถานีสุทธิสาร-รัชดาภิเษก 18, และ B3 สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-ศูนย์แพทย์พัฒนาพระราม 9
โซนบางหว้า 4 เส้นทาง ได้แก่ B4 สถานีบางหว้า-วัดชัยฉิมพลี, B5 สถานีบางหว้า-ตลาดน้ำคลองลัดมะยม, B6 สถานีบางหว้า-หมู่บ้านอิ่มอัมพร 2 และ B7 วัดรางบัว-สถานีบางหว้า-ตลาดพลู
โซนหลักสี่ 3 เส้นทาง ได้แก่ B8 วงกลมสถานีทุ่งสองห้อง-เคหะบางบัว, B9 สถานีหลักสี่-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และ B10 แจ้งวัฒนะ 14-บิ๊กซีแจ้งวัฒนะ
3. พื้นที่ชั้นนอก 10 เส้นทาง แบ่งเป็น
โซนรังสิต 2 เส้นทาง ได้แก่ C1 สถานีรังสิต-สวนสัตว์เขาแห่งใหม่คลอง 6 และ C2 สถานีหลักหก-มหาวิทยาลัยรังสิต
โซนสายไหม-คูคต 4 เส้นทาง ได้แก่ C3 สถานีคูคต-ตลาดลาดสวาย, C4 สถานีแยก คปอ.-ดอนเมือง, C5 สถานีสะพานใหม่-เทพรักษ์ และ C6 สถานีสะพานใหม่-สนามบินดอนเมือง
โซนมีนบุรี-รามอินทรา 3 เส้นทาง ได้แก่ C7 ตลาดมีนบุรี-ปัญญาอินทรา-แฟชั่นไอส์แลนด์รามอินทรา, C8 แฟชั่นไอส์แลนด์รามอินทรา-พระยาสุเรนทร์-ซาฟารีเวิลด์ และ C9 แฟชั่นไอส์แลนด์รามอินทรา-วัดคู้บอน
โซนศรีเอี่ยม-บางนา 1 เส้นทาง ได้แก่ วงกลมศรีเอี่ยม-อุดมสุข