xs
xsm
sm
md
lg

WHAUP เดินหน้าโรงไฟฟ้าโซลาร์ 14 โครงการ รวม 46.47 MW ให้กลุ่ม “สหฟาร์ม”- “โกลเด้น ไลน์ฯ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์” เดินหน้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด 14 โครงการ รวมการผลิต 46.47 เมกะวัตต์ ให้กับกลุ่มสหฟาร์ม โดยส่งมอบพลังงานไฟฟ้า 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นดินของบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด ขนาดการผลิต 20 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำของสหฟาร์ม ขนาดการผลิต 9.7 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดลพบุรี พร้อมขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 4/2568

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการโครงการโซลาร์จำนวน 14 โครงการให้แก่กลุ่มบริษัทสหฟาร์ม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจเกษตรกรรมของไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จะนำไปใช้สนับสนุนกิจการในเครือสหฟาร์ม ทั้งโรงเชือด โรงแปรรูป โรงเลี้ยงไก่ โรงฟักไข่ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 WHAUP ได้จัดพิธีส่งมอบพลังงานไฟฟ้า 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์มของ บริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด ขนาด 20 เมกะวัตต์ บนพื้นที่ 168,916 ตารางเมตร หรือราว 105 ไร่ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และโครงการโซลาร์ลอยน้ำของ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ขนาด 9.7 เมกะวัตต์ บนพื้นที่บ่อน้ำ 84,694 ตารางเมตร หรือประมาณ 52 ไร่ ที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งทั้งสองแห่งมีกำลังผลิตรวม 29.7 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 22,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี (tCO2e)


นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ WHAUP กล่าวว่า ทั้ง 14 โครงการประกอบด้วยระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Solar Farm, Solar Floating และ Solar Rooftop รวมกำลังการผลิต 46.47 เมกะวัตต์ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 35,000 tCO2e ต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2568 ซึ่งเมื่อรวมกับโครงการอื่นๆ จะทำให้ WHAUP มีกำลังผลิตไฟฟ้าสะสมสำหรับการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นเป็น 200 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญต่อการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพลังงานอย่างรอบด้าน การบริหารจัดการระบบทั้งหมดผ่านศูนย์ควบคุมส่วนกลาง Unified Operation Center (UOC) ที่ซึ่งสามารถตรวจสอบการผลิต การใช้และประสิทธิภาพของระบบโซลาร์เซลล์ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถส่งมอบพลังงานสะอาดได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด สนับสนุนเป้าหมาย “Go Green” ของสหฟาร์มได้อย่างแท้จริง


นางสาวจารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ ประธานสายบัญชีและการเงิน และเลขานุการคณะกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับ WHAUP ในโครงการโซลาร์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน “Go Green” ที่มุ่งพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม สอดคล้องกับแนวคิดของผู้บริหารยุคใหม่ที่เชื่อว่าธุรกิจควรสร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่สังคม มากกว่าการมุ่งหวังเพียงผลกำไร โดยอาศัยความเชี่ยวชาญระดับสากลของ WHAUP ในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดเป็นกลยุทธ์หลักของการเปลี่ยนผ่านองค์กร

แผน Go Green ยังมุ่งยกระดับการใช้พลังงานสะอาดในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ พร้อมเดินหน้าแผนศึกษาการนำยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ภายในองค์กร และเตรียมต่อยอดโครงการโซลาร์เฟส 2 และเฟส 3 อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมการใช้พลังงานหมุนเวียนในทุกหน่วยธุรกิจอย่างแท้จริง

นางสาวบุญญาลักษณ์ โชติเทวัญ กรรมการบริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด กล่าวว่า สหฟาร์มในฐานะผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ครบวงจรที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 54 ปี ยึดมั่นในหลักการโปร่งใส ยุติธรรม และการดูแลสิ่งแวดล้อม โครงการโซลาร์เซลล์ที่ใช้พื้นที่กว่า 300 ไร่ รองรับการผลิตไก่มากกว่า 700,000 ตัวต่อวัน ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 30% คิดเป็นมูลค่าประหยัดกว่า 100 ล้านบาทต่อปี หรือรวม 1,600 ล้านบาทตลอดระยะเวลาสัญญาซื้อขาย 14 ปี

โครงการนี้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 870,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายใน 25 ปี และมากกว่า 1,000,000 ตัน ภายใน 30 ปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 56 ล้านต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น