“ ผลิตไฟฟ้า”เร่งเจรจาM&Aโรงไฟฟ้า4-5โครงการทั้งในสหรัฐ ตะวันออกกลางและไต้หวัน หนุนบรรลุเป้าหมายมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่ม1,000เมกะวัตต์ จับตาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไต้หวันเพิ่มเติมหลังจากปีนี้รับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าลมหยุนหลินที่ไต้หวัน
นางสาวจิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน)หรือ EGCO เปิดเผยแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง2568ว่า ขณะนี้บริษัทมีดีลการเจรจาร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการ (M&A) 4-5 โครงการทั้งในสหรัฐฯ ตะวันออกกลางรวมทั้งไต้หวัน ซึ่งจะเห็นการทยอยปิดดีล ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะบรรลุเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1,000เมกะวัตต์ (MW)โดยบริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 30,000ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาทำM&Aโรงไฟฟ้าพลังงานลมไต้หวัน หลังจากปีนี้รับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าพลังลมนอกชายฝั่งหยุนหลิน( Yunlin )ที่มีขนาด 640เมกะวัตต์ซึ่งEGCO ถือหุ้นอยู่ 26.56%
นอกจากนี้ EGCO เล็งเห็นโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เนื่องจากมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า คาดว่าจะมีข้อสรุปในเร็วๆนี้เช่นกัน
ส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกานั้น EGCO ได้เข้าไปมีการลงทุนโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯและพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯรวมเกือบ 2พันเมกะวัตต์ โดยรับรู้กำไรคิดเป็นสัดส่วนราว16-17%ของกำไรรวม โดยบริษัทมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในสหรัฐฯ ปัจจุบันตลาดซื้อขายไฟฟ้าสหรัฐฯน่าสนใจมากจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นจากโครงการData Center ทำให้ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)จากรัฐอะแลสกา (โครงการ Alaska LNG) สหรัฐฯ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บมจ.ปตท.และEGCO ถึงความเป็นไปได้ในโอกาสนำเข้าLNG การลงทุนท่อส่งก๊าซฯ และการสำรวจและผลิตLNG ในอะแลสกา
นางสาวจิราพร กล่าวถึงความท้าทายในครึ่งปีหลังของ EGCO ว่า สำหรับความท้าทายตลาดในประเทศไทย คงไม่พ้นประเด็นเรื่องการเมือง ส่วนในต่างประเทศ มีประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ( Climate change ) บริษัทมีทิศทางการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนวางเป้าหมายสู่การมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 30%ในปีค.ศ.2030 และ Net Zeroในปีค.ศ. 2050 ดังนั้นการลงทุนโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมุ่งสู่พลังงานสีเขียว แต่ในช่วงTransition ยังจำเป็นต้องมีการลงทุนโรงไฟฟ้าประเภท Conventional ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ดั้งนั้นเป้าหมายการลงทุนจึงเน้นโรงไฟฟ้าก๊าซฯและพลังงานหมุนเวียน
ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม Yunlin ประกอบด้วยกังหันลม 80 ต้น กำลังผลิตต้นละ 8 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กับ Taipower (Taiwan Power Company) เป็นโครงการที่ช่วยให้พอร์ตพลังงานหมุนเวียนของ EGCO ใหญ่ขึ้นไปสู่เป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายใน 2573 และทำให้ EGCO รับรู้รายได้จาก Yunlin เต็มปี 2568 เป็นปีแรก
“Yunlin เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งแห่งแรกของ EGCO Group ที่ดำเนินการในไต้หวัน นอกจากช่วยสร้างพลังงานสีเขียวให้กับไต้หวันแล้ว ยังช่วยเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนตามสัดส่วนการถือหุ้นให้ EGCO ประมาณ 170 เมกะวัตต์ ในขณะเดียวกัน ยังช่วยสนับสนุนให้บริษัทบรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2573 ด้วย สำหรับด้านผลการดำเนินงาน คาดว่า Yunlin จะสร้างกระแสเงินสดให้ EGCOตามสัดส่วนการถือหุ้น26.56%เฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม - พฤษภาคม 2568) Yunlin มีอัตราการผลิตไฟฟ้า (Capacity Factor) ประมาณ 35% ซึ่ง Capacity Factor เฉลี่ยในระดับที่สูงนี้ ยืนยันศักยภาพของพลังงานลมในพื้นที่ช่องแคบไต้หวันและการสร้างรายได้ในอนาคต” นางสาวจิราพร กล่าวเสริมว่า
ปัจจุบัน (ณ 4กรกฎาคม 2568) EGCOมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,653เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,450เมกะวัตต์ (คิดเป็น 22%ของกำลังผลิตทั้งหมด)