ผู้จัดการรายวัน 360 - ThirdHome คลับแลกเปลี่ยนบ้านพักตากอากาศสุดหรูสำหรับเจ้าของบ้านหลังที่สองจากทั่วโลก เตรียมรุกเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของนักเดินทางระดับไฮเอนด์ในภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมขยายคอลเลกชันบ้านพักหรูทั่วโลกให้กว้างขึ้นอีกขั้น
ThirdHome ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 และเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเครือข่ายส่วนตัวของบ้านพักหลังที่สองระดับลักซ์ชัวรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมีบ้านพักให้เลือกมากกว่า 20,000 แห่ง ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมูลค่าของบ้านแต่ละหลังอยู่ในช่วงระหว่าง 500,000 ถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับตั้งแต่เปิดตัว บริษัทได้สร้างประสบการณ์แลกเปลี่ยนบ้านพักเพื่อการพักผ่อนกว่า 50,000 ครั้ง และได้รับรีวิวระดับห้าดาวมากกว่า 20,000 รีวิว ซึ่งสะท้อนถึงระดับความพึงพอใจของลูกค้าในระดับสูงสุด
แนวคิดของ ThirdHome สามารถเข้าใจได้ง่าย สมาชิกเพียงเปิดบ้านพักตากอากาศของตนให้สมาชิกคนอื่นใช้พักผ่อนในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน โดยกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 2 สัปดาห์ต่อปีเมื่อเริ่มเข้าร่วมคลับ จากนั้นสมาชิกจะสามารถเข้าพักในบ้านพักสุดพิเศษของสมาชิกท่านอื่นในจุดหมายปลายทางทั่วโลก โดยบ้านพักส่วนใหญ่ในเครือข่ายนี้เป็นบ้านพักส่วนตัวที่มีเอกลักษณ์ เช่น ปราสาท วิลล่า เพนต์เฮาส์ หรือแม้แต่เรือยอชต์ ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์ในแบบฉบับท้องถิ่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ThirdHome ยังจับมือกับแบรนด์ด้านการบริการชั้นนำระดับโลก เช่น The Ritz-Carlton Destination Club, Hyatt Vacation Club, Four Seasons Private Residences และอีกมากมาย
ทีมผู้บริหารของ ThirdHome กำลังมองหาโอกาสในการเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง โดย เวด ชีลีย์ (Wade Shealey) ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสตราเลเซีย (Australasia) การขยายธุรกิจสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเป็นก้าวต่อไปที่เหมาะสมตามกลยุทธ์การเติบโตในระดับโลกของแบรนด์ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ThirdHome ไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวระดับลักซ์ชัวรี แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือการขายไลฟ์สไตล์ที่ทรงพลังอีกด้วย ด้วยการเสนอสิทธิ์สมัครสมาชิก ThirdHome ให้แก่ผู้ซื้อบ้านตั้งแต่จุดขาย คู่ค้าจะสามารถมอบสิทธิ์การเข้าถึงเครือข่ายบ้านพักส่วนตัว รีสอร์ต และประสบการณ์พิเศษทั่วโลกให้กับลูกค้า เพิ่มคุณค่าให้แก่ทรัพย์สินที่เสนอขาย และช่วยสนับสนุนการปิดการขายได้เร็วขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อในยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากขึ้น
“เราเห็นแนวโน้มการเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศหลังที่สองระดับลักซ์ชัวรีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่แค่ในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติหรือชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวท้องถิ่นที่มีฐานะมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย ThirdHome มอบอิสระให้พวกเขาได้ออกเดินทางไปสัมผัสโลกกว้าง โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับสถานที่เดียวในทุก ๆ ปี สำหรับคนที่รักการท่องเที่ยว คลับสุดเอ็กซ์คลูซีฟของเราจึงเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง” Wade กล่าว
Wade กล่าวเสริมว่า “เรากำลังมองหาพันธมิตรที่เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และมืออาชีพในแวดวงอสังหาฯ ที่ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับสิ่งที่นำเสนอ และส่งมอบคุณค่าในระยะยาวให้แก่ลูกค้าในแง่ของไลฟ์สไตล์”
ความมั่นใจของคุณ Wade สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์และการครอบครองบ้านพักตากอากาศหลังที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรีในภูมิภาคนี้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รายงานล่าสุดโดย C9 Hotelworks¹ บริษัทวิเคราะห์ตลาดในประเทศไทย ระบุว่า โครงการที่พักอาศัยแบรนด์หรูในเอเชียขณะนี้มีสัดส่วนถึง 32% ของซัพพลายใหม่ทั้งหมดในตลาด โดยมีแบรนด์ระดับโลกอย่าง The Ritz-Carlton เป็นผู้นำเทรนด์ นอกจากนี้ ตลาดการท่องเที่ยวหรูของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 9.8% ระหว่างปี 2568 ถึง 2576
หลังจาก ThirdHome เตรียมเปิดตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าของบ้านพักหลังที่สองระดับไฮเอนด์ในภูมิภาคนี้จะสามารถเข้าร่วมกับชุมชนของนักเดินทางที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน และเข้าถึงเครือข่ายบ้านพักที่มีมูลค่าเฉลี่ยราว 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสมาชิกที่เข้าพักล้วนผ่านการตรวจสอบและเชื่อถือได้ พร้อมให้ความเคารพต่อบ้านทุกหลังเสมือนเป็นของตนเอง
Wade ยังเปิดเผยอีกว่า ฐานสมาชิกของ ThirdHome จากทั่วโลกกำลังสร้างความต้องการในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งเมืองที่มีชีวิตชีวาและหมู่เกาะที่เงียบสงบ
“สมาชิกของเราล้วนเป็นนักเดินทางผู้มีรสนิยมที่เดินทางมาแล้วทั่วโลก และหลายคนก็หลงรักเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Wade กล่าว
ย้ำว่า “ตั้งแต่วิลล่าริมชายหาดที่งดงามในบาหลี ภูเก็ต และสมุย ไปจนถึงห้องสวีทสุดชิคและเพนต์เฮาส์ใจกลางเมืองใหญ่ระดับโลกอย่างสิงคโปร์และกรุงเทพฯ เราตั้งตารอที่จะได้ขยายคอลเลกชันบ้านพักหรูของเราในภูมิภาคอันน่าทึ่งนี้”
ThirdHome ดำเนินงานในระดับสากลโดยมีทีมงานในอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และยุโรป อีกทั้งยังได้รับการกล่าวถึงในสื่อระดับโลกอย่าง Condé Nast Traveler, The New York Times และ The Wall Street Journal ในฐานะผู้เปลี่ยนมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวหรูระดับโลก