xs
xsm
sm
md
lg

NIA–iNT มหิดล–CCC Academy ปิดหลักสูตร ACC Program รุ่นที่ 2 จัดกิจกรรม Public Demo Day ชูศักยภาพ Tech Talent ไทย พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI สู่เวทีโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



NIA ร่วมมือ Int มหิดล และ CCC Academy ปิดหลักสูตร ACC Program รุ่นที่ 2 จัดกิจกรรม Public Demo Day เปิดเวทีโชว์ 8 ผลงานส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ตอบโจทย์ภาคธุรกิจเชิงพาณิชย์ ชูศักยภาพ Tech Talent ไทย ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ของประเทศไทย พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI สู่เวทีโลก มอบรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 แก่ทีม Adwise
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและ นวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (Int), CCC Academy และเครือข่ายพันธมิตร จัดกิจกรรม Public Demo Day การแข่งขันนำเสนอผลิตภัณฑ์ต้นแบบและแผนการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล และ ปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้หลักสูตร ACC Program รุ่นที่ 2 – ARI Corporate Coaching Program เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการ 43 คน นำเสนอผลงาน จากสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการในทักษะขั้นสูงตลอด 6 สัปดาห์
กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการบ่มเพาะ Tech Talent ไทยรุ่นใหม่ ที่ไม่เพียงเข้าใจ เทคโนโลยี แต่ยังสามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้กับโจทย์จริงของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรไทยให้พร้อมรับมือเศรษฐกิจดิจิทัล และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า “NIA มุ่งมั่นผลักดันนวัตกรรมในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนา ‘ทรัพยากรบุคคลด้านนวัตกรรม’ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในระยะยาว ACC Program ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงาน ตามพันธกิจของ NIA ในการเร่งสร้าง Tech Talent ด้านธุรกิจดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์อย่างเป็นระบบ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ในหลายสาขา ทั้งการศึกษา การแพทย์ เกษตรกรรม แลอีคอนเมิร์ซ หลักสูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะเชิงลึกด้าน AI ควบคู่กับการประยุกต์ใช้จริงในภาคธุรกิจ พร้อมเสริมศักยภาพการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร เพื่อผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยนวัตกรรมของประเทศอย่างยั่งยืน
จากความสำเร็จของ ACC Program ทั้งรุ่น 1 และ รุ่น 2 ทาง NIA ในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริม ระบบนวัตกรรมของประเทศ ยืนยันเจตนารมณ์ในการพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยี และสนับสนุนโครงการ อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งสร้างบุคลากรที่มีความเข้าใจทั้งเชิงเทคนิคและเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างสร้างสรรค์และมีจริยธรรม พร้อมขับเคลื่อนองค์กรและประเทศไปสู่เศรษฐกิจฐานความรู้ได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้เข้าร่วมหลักสูตรทุกท่านที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันโครงการให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง
ผศ. ดร. กฤษฎา อัศวสกุลเกียรติ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการวิชาการ และความร่วมมือ ภาคอุตสาหกรรม สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “สถาบัน iNT มีบทบาทสำคัญในการผลักดันผลงานวิจัยและเทคโนโลยีจากภายในมหาวิทยาลัยออกสู่การใช้ ประโยชน์เชิงพาณิชย์ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง กับการสนับสนุนการต่อยอดผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์และเตรียมความพร้อมในการยกระดับขีดความสามารถกำลังคนให้มีความพร้อมรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี และนวัตกรรมในอนาคต
ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งทางด้าน AI ไม่ว่าจะเป็นทางภาครัฐที่มีฐานข้อมูลค่อนข้างมาก และทาง ภาคเอกชนที่มีความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูล (Data) ทาง iNT ได้ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยที่ให้ภาคเอกชนเข้าถึง ข้อมูลภาครัฐและนำมาประยุกต์ใช้ต่อไป โดยโครงการ ACC Program รุ่นที่ 2 ได้สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการ พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ตลอดจนเป็นตัวอย่างเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันอย่างมี ประสิทธิภาพ ทั้งสำนักนวัตกรรมแห่งชาติฯ, CCC Academy, หน่วยงานพันธมิตรและภาคเอกชนทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนและร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์สูงสุด โดย iNT มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการส่งเสริม ผู้ประกอบการไทยให้สามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปต่อยอดได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อร่วมขับเคลื่อน เศรษฐกิจและสังคมของประเทศสู่การเป็นชาตินวัตกรรมอย่างยั่งยืน
ดร. นที เทพโภชน์ ประธาน CCC Academy กล่าวว่า “จากความร่วมมือระหว่างสำนักงานนวัตกรรม แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) เกิดเป็นหลักสูตร ACC Program รุ่นที่ 2 เพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ รองรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ ขีดความสามารถการแข่งขันขององค์กรภาคเอกชน ควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย”

ผลลัพธ์ของ ACC Program รุ่นที่ 2 ไม่เพียงสร้างจำนวนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม แต่ยังเป็น เวทีสำคัญในการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในธุรกิจ ช่วยเชื่อมเครือข่ายพันธมิตรอย่างแข็งแกร่งใน ระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศไทย ขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการผลักดันให้ โครงการประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โปรแกรมนี้จะเป็นจุดเร่งให้เกิดผลงาน นวัตกรรมที่มีผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศในอนาคต

ACC Program 2 เป็นหลักสูตรเพื่อเร่งสร้าง Tech Talent ด้านธุรกิจ Digital และ AI มีผู้สมัครเข้าร่วม กว่า 100 คน และผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 43 คน โดยเนื้อหาหลักสูตรแบ่งเป็น 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ การเรียนรู้ทักษะขั้นสูงด้าน AI และเทคโนโลยี, การประยุกต์ใช้ความรู้ในภาคธุรกิจอย่างมีจริยธรรม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบเชิงพาณิชย์ผ่านกลุ่มธุรกิจเป้าหมายของสำนักงานนวัตกรรมฯ รวม 8 โครงการ ใน 4 สาขาหลัก ได้แก่ การแพทย์และสุขภาพ, อีคอมเมิร์ซ, การศึกษา และการเกษตรอาหาร
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐและเอกชน และได้รับเกียรติจากผู้บริหาร จากองค์กรชั้นนำที่เข้ามาเป็นวิทยากรและที่ปรึกษา (Mentor) ได้แก่ ​​คุณสถาพน พัฒนะคูหา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Guardian AI Lab ตัวแทนสมาคมไทยเทคสตาร์ทอัพ ผู้อำนวยการหลักสูตร, ดร. สุทัด ครองชนม์ นายกสมาคมไทยไอโอที, ผศ. ดร. ชาญวิทย์ บุญช่วย นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย, SCB 10X , FINT by Finnomena, Amity Group, Next Flow และอีกมากมาย

ภายในงานมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในกิจกรรม โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 และ รางวัล Popular Vote ได้แก่ ทีม AdWise ผู้ช่วยทางการตลาดอัจฉริยะ แพลตฟอร์ม AI Vibe Marketing สำหรับ SME ที่ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า สร้าง Persona และแนะนำกลยุทธ์โฆษณาแบบ มีเหตุผล เพื่อแคมเปญที่ฉลาดขึ้นในทุกครั้ง รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Audimed ระบบ AI ที่ช่วยโรงพยาบาลตรวจรหัสโรค เพิ่มค่า adjRW ให้สามารถเบิกจ่ายจาก สปสช. ลดภาระงานบุคลากร เพิ่มรายได้ให้แก่โรงพยาบาล และ ทีม Durian Man ระบบบริหารจัดการสวนผลไม้ด้วย AI, IoT และ Drone สำหรับผลไม้มูลค่าสูง โดยเริ่มจาก “ทุเรียน” เพื่อช่วยเกษตรกรตัดสินใจแม่นยำขึ้น ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และคุณภาพระดับส่งออก ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3

ในโครงการมีการแข่งขันสร้างโปรเจคต์อย่างดุเดือด ภายใต้อุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนประเทศ เช่น TUTORIAN X ระบบผู้ช่วยติวเตอร์อัจฉริยะ ที่เน้นการเรียนรู้แบบ Personalized Learning พร้อมการประเมินผล แบบ Adaptive Assessment เพื่อปลดล็อกศักยภาพของนักเรียนไทยให้เติบโตในเส้นทางของตนเอง, InNa AI ผู้ช่วยตัวมัมสู่เจ้าของแบรนด์ตัวตึง ด้วย AI ที่ช่วยวิเคราะห์เทรนด์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ แมชชิ่งคู่ค้าและ ผลักดันสู่ตลาด ช่วยให้การสร้างแบรนด์กลายเป็นเรื่องง่าย, Glu+Me แอปพลิเคชันดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ด้วยข้อมูลแบบองค์รวม โดยใช้ AI วางแผนการดูแล ปรับพฤติกรรม และเชื่อมต่อกับระบบสุขภาพ เพื่อให้ชีวิต ผู้ป่วยดีขึ้นอย่างยั่งยืน, Learning Quest แพลตฟอร์ม AI ที่เปลี่ยนบทเรียนให้กลายเป็น “เกมการศึกษา” แบบไม่ซ้ำกันในแต่ละบทเรียน ช่วยให้ครูสร้างเกมได้ทันทีจากเนื้อหาเดิม เพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพ การเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญ, และ MedicaLens แอปพลิเคชันอ่านผลตรวจสุขภาพด้วย AI ที่แปลเอกสารหรือภาพถ่ายให้อ่านเข้าใจง่าย พร้อมแนะนำพฤติกรรมสุขภาพเฉพาะบุคคล และเชื่อมต่อกับแพ็กเกจประกันหรือการตรวจที่เหมาะสม

ทั้งนี้ผู้ผ่านการอบรมทั้ง 43 คน จะได้รับใบประกาศนียบัตรจาก NIA รวมทั้งได้รับโอกาสการสนับสนุน ด้านเงินทุนจากภาครัฐฯและเอกชน และคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ และเข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายกับเครือข่ายนักลงทุนและบุคลากรในอุตสาหกรรมรวมถึงคอมมูนิตี้ของ Tech Talent ต่อไป




















กำลังโหลดความคิดเห็น