กบน.ปรับลดเงินชดเชยน้ำมันดีเซล หลังราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง 1.50 บาท/ลิตร โดยราคาดีเซลหน้าปั๊มยังคงที่ 31.94 บาท/ลิตร
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีการพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก และเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ซึ่งได้มีการประกาศหยุดยิงและยุติสงคราม โดยมีมติให้ปรับลดอัตราเงินชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับน้ำมันดีเซลลง 1.50 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ที่ 65 สตางค์/ลิตร เป็นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ 85 สตางค์/ลิตร ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายน้ำมันหน้าสถานีบริการ โดยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงอยู่ที่ 31.94 บาท/ลิตรเท่าเดิม
การปรับลดเงินชดเชยในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังทิศทางราคาน้ำมันโลกกลับมาผ่อนคลาย เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศจบสงคราม 12 วัน และการยุติสงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ส่งผลให้ไม่มีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันทางเรือที่สำคัญ โดยตลาดน้ำมันโลกกลับสู่ภาวะปกติ และปรับลดลงอย่างมาก น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 68.75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 86.16 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 82.55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหลักของราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น โดย กบน.ได้ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยพยุงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (5 ครั้ง) โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มน้ำมันดีเซลไม่ให้ปรับขึ้นราคา ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบขนส่ง และค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งจากเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การลดการชดเชยในครั้งนี้จึงเป็นการคลายภาระให้กองทุนน้ำมันฯ แต่ยังคงรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภคและประชาชน ซึ่ง กบน.ยืนยันจะยังคงติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมที่สุด” นายพรชัยกล่าว
สำหรับการปรับลดการชดเชยในวันนี้ (25 มิ.ย.) ส่งผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันฯ จากกลุ่มน้ำมันดีเซลกลับมาปรับตัวดีขึ้น รายรับจากกลุ่มน้ำมันดีเซล จากเดิมติดลบประมาณวันละ 40.75 ล้านบาท เป็นมีรายรับประมาณวันละ 55.75 ล้านบาท ส่วนรายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซิน คงที่อยู่ประมาณวันละ 76.13 ล้านบาท
