xs
xsm
sm
md
lg

“คมนาคม” รับงบกระตุ้น ศก. 4.87 หมื่นล้าน อัดฉีด 6 หน่วย "สุริยะ" ลุยจัดจ้าง เร่งเซ็นสัญญาเริ่มทำงาน ก.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ครม.เคาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้านบาท จากวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท “สุริยะ” เผยคมนาคมได้รับ 4.87 หมื่นล้านบาท อัดฉีด 6 หน่วยงาน ทล.มากสุด 3.2 หมื่นล้าน ตามด้วย ทช. รับ 1.4 หมื่นล้าน เร่งจัดจ้าง-เซ็นสัญญาใน ก.ย.นี้ งานระยะสั้นเสร็จในปลายปี 68 มั่นใจ ศก.ฟื้นตัว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 มิ.ย. 2568 มีมติเห็นชอบคำขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 157,000 ล้านบาท ที่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเพื่อการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจและมีความสำคัญสูง มีโครงการที่ผ่านหลักเกณฑ์ วงเงินรวม 115,375 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากที่ ครม. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมาได้มีมติเห็นชอบอนุมัติแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งข้อสังเกตของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการพิจารณาเป็นลำดับ

นายสุริยะกล่าวว่า สำหรับวงเงินรวม 115,375 ล้านบาท เป็นกรอบที่กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรวงเงินรวม 48,757 ล้านบาท จำนวน 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมทางหลวง (ทล.) วงเงิน 32,188.33 ล้านบาท, กรมทางหลวงชนบท (ทช.) วงเงิน 14,725.09 ล้านบาท, บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) วงเงิน 14.8 ล้านบาท, กรมท่าอากาศยาน (ทย.) วงเงิน 765.9 ล้านบาท,  องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วงเงิน 42 ล้านบาท, การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วงเงิน 1,020.8 ล้านบาท

โดยงบจัดสรรวงเงินดังกล่าวนั้นจะนำมากระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่งเสริมการจ้างงาน เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้ประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ โครงการต่างๆ ที่ได้รับการจัดสรรจะต้องลงนามสัญญากับผู้รับจ้างและเริ่มงานภายในเดือน ก.ย. 2568 และดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์สูงสุดทุกโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปจนถึงผลักดันภาพรวมเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

นายสุริยะกล่าวว่า ในส่วนของรายละเอียดการจัดสรรงบประมาณ แบ่งตามหน่วยงาน เช่น ทล.จะดำเนินโครงการครอบคลุมการแก้ไขปัญหาการจราจรที่เป็นคอขวด เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ปรับปรุงถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ส่วน ทช.เน้นการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง การปรับปรุง-พัฒนาถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่การผลิต เป็นต้น

ส่วน ทย.เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการปรับปรุงสนามบินให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เป็นต้น ด้าน รฟท. จะดำเนินโครงการโดยมุ่งเน้นการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง และแก้ไขปัญหาจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับถนนเสมอระดับ เป็นต้น รวมถึงบขส.ดำเนินโครงการด้านความปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองด้วยรถโดยสารของ บขส. และปรับปรุงสถานีขนส่งผู้โดยสาร เป็นต้น และ ขสมก. ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่คอขวด เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น