ผู้จัดการรายวัน360- บิ๊กซีเล่นบิ๊กเกม เปิดศึกมุ่งเจาะนักท่องเที่ยว วันเดียวเปิด 2 สาขาใหญ่ นำทีมโดย “บิ๊กซี แอท ฟีนิกซ์” เจาะทำเลทองใจกลางประตูน้ำ และ “บิ๊กซี สวนนงนุช พัทยา” ตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงละครสกาลา สวนนงนุช พัทยา เผยวางใจ 20 สาขากัมพูชา สถานการณ์ปกติ และยังไม่มีแผนจะเปิดเพิ่ม
นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า ปี2568นี้บิ๊กซียังคงขยายสาขาใหม่ตามแผนเดิมที่วางไว้ คือ เปิดสาขาใหม่ 7 สาขา และรีแกรนด์/รีเฟรช 6 สาขา ซึ่งสาขาใหม่เปิดไปแล้ว 3 สาขา ครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 4 สาขา และอาจจะมีเพิ่มเข้าอีก 1 สาขา คือ เอเชียทีค ส่วนปีหน้ายังคงลงทุนใกล้เคียงกับปีนี้ ที่จะมีสาขาใหม่ 5-7 สาขา งบลงทุนรวม 5,000-7,000 ล้านบาท
ล่าสุดพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสาขาใหม่ “บิ๊กซี แอท ฟีนิกซ์” ตอบโจทย์ดีมานด์จากลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ บนทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณประตูน้ำ ซึ่งเป็นที่พักอาศัย โรงแรม และคอนโดมิเนียม แวดล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวและการคมนาคมสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS และ Airport Rail Link และในวันเดียวกันนี้ (23 มิถุนายน 2568) ยังได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 สาขา คือ บิ๊กซี สวนนงนุช พัทยา ตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงละครสกาลา สวนนงนุช พัทยา
ส่งผลให้ปัจจุบันบิ๊กซีมีทั้งหมด 205 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาคในไทย แบ่งออกเป็น 1. บิ๊กซี มาร์เก็ต 35 สาขา 2.บิ๊กซี ฟู้ดเพลส 16 สาขา 3.บิ๊กซี ไฮเปอร์มาร์เก็ต 154 สาขา โดย บิ๊กซี แอท ฟีนิกซ์ นับเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาที่ 154 ในประเทศไทย และเป็นสาขาที่ 205 ในภาพรวม
“แม้การท่องเที่ยวจะไม่เป็นตามเป้า จากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ ทำให้ยอดขายบิ๊กซีลดลง 10-20% ในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา โดยเฉพาะสาขาราชดำริ แต่สถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ โดยได้กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นทดแทน เช่น CLMV และมิดเดิลอีสต์ เป็นต้น ซึ่งมองว่าไทยยังคงพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ เชื่อว่าระยะยาวนักท่องเที่ยวจะกลับมา ดังนั้นการขยายสาขาใหม่จึงเน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น 7 สาขาใหม่ปีนี้ เป็นทำเลที่เจาะนักท่องเที่ยวทั้งหมด รวมถึงการรีแบรนด์ 6 สาขาในปีนี้ ก็เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเช่นกัน” นางฐาปนี กล่าว
สำหรับบิ๊กซี แอท ฟีนิกซ์ ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท เพราะเป็นการรีโนเวทพื้นที่ไม่ใช่สร้างใหม่ และเป็นฟอร์แมทไฮเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่ประมาณ 3,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของ โครงการฟีนิกซ์ ประตูน้ำ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง
จุดเด่น คือ "TouristFavorites Zone" จำหน่ายสินค้ากลุ่มของฝากยอดนิยมขนมไทย ผลไม้อบแห้ง สินค้า Exclusive Item สินค้า SMEs และกลุ่มสินค้าอาหารสดและอาหารแห้งหลายรายการ หรือคิดเป็นจำนวนสินค้ารวมกว่า 15,000 รายการ และกว่า 30% เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว
“สาขานี้เหมือนยก บิ๊กซี สาขาราชดำริ ซึ่งเป็นสาขายอดนิยมอันดับ 1 ของลูกค้าต่างชาติ มาไว้ที่โครงการฟีนิกซ์ เพื่อรองรับความต้องการการช้อปปิ้งของกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว ตลอดจนมีการออกแบบ ตกแต่ง บูทจำหน่ายสินค้าให้มีเอกลักษณ์แบบไทย สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดึงดูดใจแก่กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ อีกทั้งยังมีมุม Live Promotion Corner ที่เชื่อมโยงกับการเปิดพื้นที่ Live ผ่าน TikTok/ IG Live ช่วยสื่อสารและดึงดูดความสนใจให้แก่ลูกค้า สามารถเชื่อมต่อและแชร์ประสบการณ์กับลูกค้าได้ทันที“
การเปิดสาขาใหม่นี้จัดโปรโมชั่น ช้อปครบ 599 บาท เลือกรับสิทธิ์อย่างใดอย่างหนึ่ง (จำกัดจำนวน 1 สิทธิ์/ ลูกค้า 1 ท่าน) ดังนี้ 1.แจกทุเรียนฟรี 300 กิโลกรัม (จำกัดสิทธิ์ รับฟรีทุเรียน 1 ลูก/ลูกค้า 1 ท่าน) 2.บัตรคอนเสิร์ต Variety Jungle จำนวน 200 สิทธิ์ 3.กระเป๋า Phenix จำนวน 200 สิทธิ์ 4.Food Lounge Card (Phenix) มูลค่า 50 บาท จำนวน 800 สิทธิ์ (ตั้งแต่ 23 - 30 มิ.ย. 2568 นี้เท่านั้น) นอกจากนี้ในช่วงการเปิดสาขาใหม่ บิ๊กซี ฟีนิกซ์ ยังจัดแสดงบูทสินค้าและกิจกรรม จากแบรนด์สินค้าชั้นนำต่างๆ รวม 31 บูท ให้ลูกค้าที่ใช้บริการได้ร่วมลองลิ้มชิมรส สัมผัสประสบการณ์กับสินค้าแบรนด์ต่างๆ ไปพร้อมกับสินค้าดีลเด็ดต่างๆ
ส่วนบิ๊กซี สวนนงนุช พัทยา ที่เปิดวันเดียวกันนี้ ตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงละครสกาลา สวนนงนุช พัทยา ซึ่งเป็น 1 ใน 10 สวนที่สวยที่สุดในโลก เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและลูกค้าชาวไทย โดยปักหมุดให้เป็นอีก Tourist Destination หรือจุดหมายปลายทางของกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการช้อปปิ้งสินค้าของฝาก ของที่ระลึก ที่จำหน่ายในราคาคุ้มค่าและมีความหลากหลายครบครัน ส่วนสาขาที่มีการทำ Re - Grand Opening ปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในโฉมใหม่ เพิ่มอีก 6 สาขานั้น เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งใหม่ให้แก่กลุ่มลูกค้า รวมถึงรองรับการเติบโตของธุรกิจรีเทล โดยแต่ละสาขาล้วนตั้งอยู่ในทำเลสำคัญ คือ บิ๊กซี หัวหมาก, บิ๊กซี พัทยา มารีน่า, บิ๊กซี เพลส รัชดาภิเษก, บิ๊กซี มาร์เก็ตกมลา, บิ๊กซี มาร์เก็ต พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่, บิ๊กซี มาร์เก็ต หัวหิน
นางฐาปนี กล่าวต่อถึงสถานการณ์ของบิ๊กซีในประเทศกัมพูชาด้วยว่า ปัจจุบันบิ๊กซีเปิดให้บริการในกัมพูชารวม 20 สาขา แบ่งเป็น ไฮเปอร์มาร์เก็ต 1 สาขา ที่ปอยเปต และที่เหลือ 19 สาขา เป็นมินิบิ๊กซี เปิดให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศในกัมพูชา ซึ่งสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ในส่วนของบิ๊กซียังเป็นปกติ ลูกค้ายังเข้าใช้บริการตามปกติ การขนส่งสินค้ายังปกติ มีเพียงเรื่องของไฟฟ้าที่มีขัดข้องบ้างช่วงตัดไฟจากไทย แต่ไม่กังวลเพราะเราวางแผนมีเครื่องปั่นไฟไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ห่วงเพียงผู้บริหารคนไทย 1 คนที่ดูแลที่นั่น หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น ซึ่งระหว่างนี้ก็ต้องเฝ้าดูสถานการณ์ไปก่อน โชคดีว่าเรายังไม่มีแผนการลงทุนในกัมพูชาทั้งในปีนี้และปีหน้า จึงไม่มีเรื่องผลกระทบของการลงทุน รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ก็ยังไม่มีแผนลงทุนในช่วงนี้เช่นกัน เน้นการลงทุนในไทยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลักก่อน.