xs
xsm
sm
md
lg

“พีระพันธุ์” กางแผนรับมืออิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ จัดหาจากแหล่งอื่นในราคาต่ำ-เพิ่มปริมาณสำรองฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พีระพันธุ์” เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสงครามอิสราเอล-อิหร่านที่ทวีความรุนแรง โดยอิหร่านจ่อปิดช่องแคบฮอร์มุซ สั่งเตรียมมาตรการจัดหาจากแหล่งอื่นทดแทน ต้องคำนึงถึงต้นทุนราคาพลังงานเป็นสำคัญ หวั่นไทยเสี่ยงสูง เหตุนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางคิดเป็น 60% การขนส่งต้องผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ดังนั้นราคาน้ำมันใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ดูแล ส่วน LNG ให้ กฟผ.เตรียมจัดหาจากแหล่งราคาถูกสำรองไว้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (23 มิ.ย.) ได้เรียกผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน หลังจากรัฐสภาอิหร่านลงมติเห็นชอบในการปิดช่องแคบฮอร์มุซ สืบเนื่องจากสหรัฐอเมริกาได้โจมตี 3 โครงการนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยมีการวิเคราะห์สถานการณ์ ส่วนการนำเข้าน้ำมันที่ต้องผ่านช่องแคบฮอร์มุซนั้นได้เตรียมแผนในการจัดหาจากแหล่งอื่นทดแทน โดยต้องคำนึงถึงต้นทุนราคาพลังงานเป็นสำคัญ รวมทั้งเตรียมฉากทัศน์ Scenario ต่างๆ เพื่อรองรับโดยเฉพาะราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศ และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ต้องใช้ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยราคาน้ำมัน ส่วนหนึ่งจะใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมารักษาเสถียรภาพด้านราคา รวมทั้งอาจขอความร่วมมือกับกระทรวงการคลังในการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้น ส่วนปริมาณสำรอง ก็จะทำการจัดหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่นในภูมิภาคทดแทนและอาจเพิ่มปริมาณสำรองมากขึ้น

ส่วนก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า ก็ต้องนำเข้าผ่านช่องแคบฮอร์มุซเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน ดังนั้นเพื่อเตรียมรับผลกระทบต่อราคาไฟฟ้า นายพีระพันธุ์จึงสั่งการให้ กฟผ. เตรียมหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากแหล่งอื่นที่มีราคาถูกเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าวนี้ด้วยแล้ว


ทั้งนี้ ช่องแคบเฮอร์มุซ เป็นเส้นทางในการขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้ supply น้ำมันหายไปประมาณ 20% ของความต้องการโลก ขณะที่ไทยเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบประมาณ 90% และมีการนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางประมาณ 60% โดยนำเข้าจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต ซาอุดีอาระเบีย และโอมาน ซึ่งต้องขนส่งทางเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุซ

“ กระทรวงพลังงานได้มีการเตรียม scenario ในรูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านหากทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก และระยะเวลาในการปิดช่องแคบฮอร์มุซที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ เพื่อดำเนินมาตรการการจัดเตรียมปริมาณน้ำมันสำรองภายในประเทศ รวมทั้งการเตรียมหามาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง”

ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ประมาณ 72 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่วนในด้านปริมาณสำรองน้ำมันภายในประเทศ ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2568 มีน้ำมันดิบเพียงพอต่อความต้องการใช้ 22 วัน น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่ง (ผ่านช่องแคบฮอร์มุซแล้ว) เพียงพอต่อความต้องการใช้ 20 วัน และน้ำมันสำเร็จรูปเพียงพอต่อความต้องการใช้ 18 วัน รวมปริมาณน้ำมันคงเหลือที่สามารถใช้ได้ 60 วัน ซึ่งหากสถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จะมีการบริหารจัดการเพื่อรักษาเสถียรภาพปริมาณสำรองน้ำมันภายในประเทศเพื่อสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นภายในประเทศ


สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการดูแลด้านราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบหากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2568 สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบประมาณ 35,408 ล้านบาท โดยเป็นบัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 44,403 ล้านบาท และในส่วนของบัญชีน้ำมันสถานะเป็นบวก 8,995 ล้านบาท

“ยืนยันว่ากระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเตรียมแนวทางการบริหารจัดการด้านราคาและปริมาณสำรองภายในประเทศ หากการสู้รบรุนแรงและยืดเยื้อ จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอให้มั่นใจว่ากระทรวงพลังงานจะติดตามสถานการณ์และดำเนินทุกมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและปริมาณสำรองน้ำมัน และขอให้ประชาชนใช้พลังงานอย่างประหยัดเพื่อลดการนำเข้า ก็จะช่วยให้ประเทศลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย” นายพีระพันธุ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น