กรมทางหลวงขยาย 4 เลน”ทล. 4009” สุราษฎร์ธานี – อ่าวลึก ตอน บ.ซอยสิบ – อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 23 กม.งบกว่า 1.1 พันล้านบาท เสร็จแล้ว ยกระดับการเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่าย เชื่อมสู่พังงา ภูเก็ต หนุนเศรษฐกิจภูมิภาค
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4009 สาย สุราษฎร์ธานี-อ.อ่าวลึก ตอน บ.ซอยสิบ-อ.บ้านนาสาร ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่าง กม.18 ถึง กม.41 มีจุดเริ่มต้นที่โรงเรียนบ้านซอยสิบ ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และสิ้นสุดที่ถนนเทศบาลเมืองนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทางรวม 23 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณโครงการ 1,113.164 ล้านบาท เสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อยกระดับโครงข่ายคมนาคมรองรับปริมาณการจราจรให้ผู้ใช้เส้นทางเดินทาง ด้วยความสะดวกรวดเร็วปลอดภัย ช่วยเสริมศักยภาพกระจายความเจริญด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้สู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ตามนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการขับเคลื่อนพัฒนาโครงข่ายทางหลวง และมาตรฐานความปลอดภัยบนทางหลวง
โดยโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 4009 สายสุราษฎร์ธานี - บรรจบทางหลวงหมายเลข 4 (อ่าวลึก) มีจุดเริ่มต้นจาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีระยะทางรวมประมาณ 145 กิโลเมตร แนวเส้นทางตัดขึ้นไปทางใต้ผ่าน อ.บ้านนาสาร อ.เวียงสระ และอ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ สิ้นสุดที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 โดยเส้นทางอยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีประมาณ 114 กิโลเมตร อยู่ในจังหวัดกระบี่ประมาณ 31 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปสู่จังหวัดพังงา ภูเก็ต ตลอดเส้นทางผ่านพื้นที่ราบสลับที่เนิน มีย่านชุมชนเป็นช่วงๆ และเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการขนส่งพืชผลทางการเกษตร
ปัจจุบันทางหลวงสายนี้มีปริมาณการจราจรเฉลี่ย 12,563 คันต่อวัน และมีปริมาณรถบรรทุกหนักใช้เส้นทางประมาณ 10.99% ด้วยเหตุนี้ กรมทางหลวงจึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการสัญจรของประชาชนเป็นสำคัญ และได้ดำเนินการก่อสร้างขยายช่องจราจรจากเดิมขนาด 2 ช่องจราจร เป็นขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับข้างละ 2 ช่องจราจร) ตลอดเส้นทาง
ลักษณะโครงการเป็นการก่อสร้างทางหลวงมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ผิวทางเป็นแอสฟัลต์คอนกรีตหนา 5 เซนติเมตร และรองผิวทางด้วยแอสฟัลต์คอนกรีตหนา 8 เซนติเมตร ผิวจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร พร้อมไหล่ทางชนิดเดียวกับผิวทาง ด้านนอกกว้างข้างละ 2.50 เมตร
สำหรับบริเวณทางแยก ได้ก่อสร้างผิวทางเป็น Concrete Pavement (JRCP) หนา 25 เซนติเมตร รวมถึงมีการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง ไฟสัญญาณจราจร และไฟกะพริบบนทางหลวง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก (Raised Median) และแบ่งช่องจราจรด้วยแบริเออร์คอนกรีตแบบฐานแผ่สองด้าน (Barrier Type II)ทำการก่อสร้างศาลาทางหลวงในบริเวณสองข้างทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
รวมทั้งได้ทำการก่อสร้างสะพานคู่ใหม่ข้ามคลองฉวางจำนวน 1 แห่ง และขยายความกว้างสะพานเดิมอีก 5 แห่ง ได้แก่ สะพานข้ามคลองยา, คลองกงลำ, คลองลำพูน, และคลองเหยียด 2 แห่ง รวมถึงงานขยายท่อเหลี่ยมอีก 6 แห่ง เพื่อรองรับการระบายน้ำและเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างพื้นฐาน
การเปิดใช้เส้นทางที่สมบูรณ์ ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงและมาตรฐานความปลอดภัยในเส้นทาง ยกระดับโครงข่ายคมนาคม รองรับปริมาณการจราจรให้ผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความสะดวกรวดเร็วปลอดภัย ช่วยเสริมศักยภาพกระจายความเจริญด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้สู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เชื่อมไปสู่จังหวัดภาคใต้หลายพื้นที่ และผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น ถ้ำขมิ้น อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ฯลฯ
