xs
xsm
sm
md
lg

“ลากลาส” ยอดพุ่งเท่าตัวรับไวรัล โทนเนอร์แพดดันพันล.-รุกตปท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ลากลาส มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ลั่น 3 ปีทะยาน 2,000 ล้านบาท จากแผนบุกตปท. เน้นเจาะตลาดจีนวัยรุ่นเจน Z ล่าสุดเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ หวังระดมทุนสร้างแกร่งสู่การแข่งขันในอนาคต


นางสาวเอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอดีล แอนด์ มาเวลลัส เท็น จำกัด ผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง ลากลาส (LA GLACE) เปิดเผยว่า ตัวเองและนายทิวาทัพพ์ ได้ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอางค์ลากลาสตั้งแต่อายุ 19-20 ปี ตั้งแต่ช่วงที่เป็นนักศึกษา จนเข้าสู่ปีที่ 8 ในปีนี้ ด้วยเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาวัยรุ่น Gen Z และเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ จากการมุ่งพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ความงามที่ดีที่สุด มีเอกลักษณ์และมีความแตกต่าง ราคาจับต้องได้ เข้าถึงง่าย

ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ มากกว่า 80 SKU ใน 3 กลุ่มหลัก คือ Make up, Skincare และ Mask sheet โดยมี 3 ผลิตภัณฑ์หลัก คือ คอลซีลเลอร์ บลัชดำ และล่าสุดกับโทนเนอร์แพด โดยเฉพาะโทนเนอร์แพด หลังจากเปิดตัวเมื่อปลายปีก่อน ปัจจุบันทำยอดขายที่ 50% ของรายได้รวม เชื่อว่าตลอดปีนี้โทนเนอร์แพดจะทำยอดขายถึง 600-700 ล้านบาท


“จากกระแสการตอบรับโทนเนอร์แพดที่สูงมาก มั่นใจว่าปีนี้รายได้จะทะลุ 1,000 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมาก จากปีก่อนปิดที่ 400 ล้านบาท ซึ่งปีนี้บริษัทยังคงมีแผนลงทุนต่อเนื่อง โดยจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอีกกว่า 20 รายการ เน้นในกลุ่มสกินแคร์เป็นหลัก จากที่มีอยู่แล้ว 80 รายการ”

สาเหตุที่ปี 2566 มียอดขายกว่า 400 ล้านบาท เป็นผลมาจาก "บลัชดำ" หรือ BLACK MAGIC LIP & CHEEK PH BLUSH ที่ได้การตอบรับอย่างล้นหลาม ยอดขายกว่า 1.5 ล้านชิ้น นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ตัวอื่น อย่าง LA GLACE MINI AIRY SKIN CONCEALER แบบซอง ยอดขายมากกว่า 1.5 ล้านชิ้น เช่นกัน


ด้านนายทิวาทัพพ์ ธรารักษ์อนันต์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท ไอดีล แอนด์ มาเวลลัส เท็น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดความงาม 3.4 แสนล้านบาท ยังมีโอกาสให้ลากลาสแข่งขันอยู่ แต่เนื่องจากมองว่าในไทยตลาดโตช้า จึงมุ่งทำตลาดต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะการเจาะตลาดวัยรุ่นจีน ส่งผลให้บริษัทมีแผนจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศภายใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2569- 2571 ไม่ว่าจะเป็น เอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มที่ฮ่องกง เป็นประเทศแรก ถือเป็นประตูสู่ลูกค้า Gen Z ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งเป้าในปี 2571 บริษัทจะมียอดขาย 2,000 ล้านบาท มาจากในประเทศและต่างประเทศ รวมกัน

“บริษัทต้องการสร้างการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน ปีนี้จึงได้เตรียมวางระบบด้านการเงินและบัญชีต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าตลาดตลาดหลักทรัพย์ฯ SET โดยเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในแง่ต้นทุน ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ รวมถึงสามารถดึงคนเก่งๆ เข้ามาสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ และเพื่อหาโอกาสในการขยายการลงทุนร่วมกับแบรนด์ที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศเพื่อขยายพอร์ตของลากลาสต่อไป” นายทิวาทัพพ์ กล่าว

ปัจจุบันลากลาสมีผู้ติดตามรวมทุกช่องทางออนไลน์ถึง 1,500,000 follower หรือผู้ติดตาม และมีฐาน Affiliate (นายหน้าขายสินค้าในออนไลน์) อีกกว่า 140,000 คน ส่งผลให้ยอดขายในช่องทางออนไลน์ 50% โมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีก และ Beauty Store ชั้นนำ เช่น watsons, Beautrium, EVEANDBOY, 7-11, Konvy 40% และพาร์ทเนอร์ 10%

ขณะที่ข้อมูลรายได้ย้อนหลังนั้น นับตั้งแต่ ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 6.64 แสนบาท มีกำไรสุทธิ 1.45 แสนบาท ปี2562 มีรายได้ 6.39 ล้านบาท กำไร 5.12 แสนบาท, ปี2563 รายได้ 16.90 ล้านบาท มีกำไร 3.19 ล้านบาท, ปี2564 รายได้ 13.21 ล้านบาท กำไร 1.1ล้านบาท, ปี2565 รายได้ 39.9 ล้านบาท กำไร 1.65 ล้านบาท, ปี2566 รายได้ 401.2 ล้านบาท กำไร 108.1 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดร่วม 1,000% ขณะที่ปี 2567 มีรายได้ 420 ล้านบาท กำไรสุทธิ 37.7 ล้านบาท และในปี 2568 นี้ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นแตะหลัก 1,000 ล้านบาท.


























กำลังโหลดความคิดเห็น