xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดทอท.เคาะจ้างที่ปรึกษาหาทางออกสัญญา”ดิวตี้ฟรี” 5 สนามบิน - 17 มิ.ย.นัด”คิงเพาเวอร์”คุยรายละเอียดยันไม่เอื้อเอกชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บอร์ดทอท.เห็นชอบตั้งคณะกรรมการและจ้างที่ปรึกษาฯศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหา สัญญาร้านค้าปลอดอากร หลัง”คิงเพาเวอร์”ยื่นระบุไม่ได้รับความเป็นธรรม 17 มิ.ย.นัด”คิงเพาเวอร์”หารือรายละเอีดข้อข้อเสนอ พร้อมเร่งสรุปใน 60 วัน ยืนยันสถานะทางการเงิน ยังแข็งแรงมีแผนบริหารความเสี่ยง

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง และรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่มีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย เป็นประธาน ได้รับทราบในการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรอง ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการ จำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.และจ้างที่ปรึกษา จากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อศึกษาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอด อากรในท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.โดยเร็ว โดยที่ปรึกษาจะศึกษาประเด็นด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน และการบริหารธุรกิจ เพื่อวิเคราะห์ข้อจำกัดของสัญญาเดิม รวมถึงเสนอแนวทาง ที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 60 วัน จากนั้น จะเสนอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ได้ส่งหนังสือถึงทอท. เรื่อง ขอหารือแนวทางในการพิจารณายกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร รวมทั้งหมด 3 ฉบับ ได้แก่ สัญญาดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , สัญญาดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานดอนเมือง และ สัญญาดิวตี้ฟรี 3 ท่าอากาศยานในภูมิภาค ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ โดยทอท.จะหารือร่วมกับคิงเพาเวอร์ฯ ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามในระหว่างการพิจารณาแนวทางคิงเพาเวอร์ฯยังคงต้องจ่ายค่าตอบแทนตามปกติ ขณะเดียวกันคิงเพาเวอร์จะยังคงต้องจ่ายผลตอบแทนตามสัญญาตามเดิมในรูปแบบ Minimum Guaranteeซึ่งสูงกว่าการจ่ายแบบRevenue Sharingอัตรา 20%ของรายได้และค่าตอบแทนส่วนที่คิงเพาเวอร์ฯค้างชำระอยู่นั้นยังไม่เกินวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee)ที่คิงเพาเวอร์ฯวางไว้เป็นหลักประกันตามหลักเกณฑ์ในสัญญาซึ่งถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญาในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิดซึ่งได้แจ้งให้ทางคิงเพาเวอร์ฯรับทราบแล้ว

นางสาวปวีณากล่าวว่าจากหนังสือคิงเพาเวอร์ฯระบุเหตุผล 7ข้ออ้างถึงผลกระทบต่างๆและการแก้ไขสัญญาที่ผ่านมาไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นทอท.จึงเห็นว่าต้องจ้างที่ปรึกษาที่เป็นคนกลางและเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านเพื่อให้มาวิเคราะห์ว่าเป็นไปตามที่คิงเพาเวอร์ฯบอกมาหรือไม่ซึ่งที่ผ่านมาการพิจารณาต่างๆสายงานพัฒนาธุรกิจของทอท.พิจารณาโดยยึดสิ่งที่เป็นประโยชน์กับทอท.อย่างครบถ้วนดังนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่สองฝ่ายมองต่างกัน


โดยบ่ายวันที่ 17มิ.ย.68ทอท.ได้เชิญทางคิงเพาเวอร์ฯมาพูดคุยในรายละเอียดเพิ่มเติมที่ได้ทำหนังสือถึงทอท.​ว่าในแต่ละประเด็นมีความหมายอย่างไรบ้างเพื่อความชัดเจนเพื่อนำข้อมูลส่งต่อให้ที่ปรึกษานำไปศึกษาวิเคราะห์ต่อซึ่งในการพูดคุยครั้งนี้ยังไม่ใช่การเจรจาใดเป็นการทำความเข้าใจความต้องการของคิงเพาเวอร์

สำหรับการจ้างที่ปรึกษาฯนั้นทอท.ดำเนินการตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯโดยวิธีเร่งด่วนซึ่งจะเชิญสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญอย่างน้อย 2รายเข้ามาเพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบเพื่อได้แนวทางที่เหมาะสมที่สุดโดยคาดว่าภายใน 2สัปดาห์จะได้ตัวที่ปรึกษาและดำเนินการศึกษากรอบไม่เกิน 2เดือน

“เรื่องนี้มี 3แนวทางคือคงสัญญาไว้เหมือนเดิมหรือแก้ไขสัญญาใหม่หรือยกเลิกสัญญาและเปิดประมูลใหม่แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ต้องรอการศึกษาออกมาก่อนซึ่งที่ผ่านมาวิกฤติเกิดขึ้นหลายครั้งกระทบต่อสัญญาเชิงพาณิชย์​ซึ่งมีกว่า 1,000สัญญาและมีหลายสัญญาที่ได้มีการเจรจาแก้ไขหรือยกเลิกไปแล้วเพราะการบริหารสัญญาเชิงพาณิชย์ค่อนข้างมีความยืดหยุ่น เช่นแค่ย้ายพื้นที่ร้านจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งหรือสนามบินมีการเปลี่ยนหลุมจอดการFlowของผู้โดยสารก็เปลี่ยนไปแล้วก็มีผลที่ไม่เหมือนในสัญญาที่ตกลงกันไว้แล้วซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจมีปัจจัยสงครามหลายปัจจัยไม่เหมือนเดิมซึ่งทอท.มีการศึกษาและวางกลยุทธ์รองรับด้วย”

นางสาวปวีณากล่าวว่าปี 2567 ทอท.มีรายได้รวมประมาณ 63,000ล้านบาทโดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจการบิน ( Aero)ประมาณ 63%ธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน ( Non Aero)จากคิงเพาเวอร์ 17%และรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการบิน(Related ) 20%เช่นบริการภาคพื้นคลังสินค้าเป็นต้น จะเห็นว่ารายได้ที่มาจากคิงเพาเวอร์ฯถือว่ามีสัดส่วนที่มีนัยสำคัญแต่หากมีการยกเลิกสัญญาร้านดิวตี้ฟรีทั้งหมดทอท. ก็สามารถยึดแบงก์การันตีที่ครอบคลุมหนี้ค้างจ่ายของคิงเพาเวอร์ได้

ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารและสินค้ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสินค้าปี2567มีจำนวน 1.3ล้านตันปี 2568 (ต.ค.67ถึงเม.ย. 68)มีจำนวน 1.4ล้านตันแล้วซึ่งทอท.อยู่ระหว่างการประมูลคัดเลือกผู้ประกอบการภาคพื้นฯและคลังสินค้ารายที่ 3ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งจะได้ข้อสรุปในเดือนก.ค.2568จากนั้นจะเสนอสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาและเสนอครม.อนุมัติตามขั้นตอนพ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯพ.ศ.2562

@มีปัญหาแล้วแก้ไขดีกว่าไม่ทำอะไรเพราะอาจจะเสียหายมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการแก้ไขหรือยกเลิกสัญญาคิงเพาเวอร์ฯ นั้น จะถูกมองว่า ทอท.เอื้อประโยชน์กับเอกชนหรือไม่ นางสาวปวีณากล่าวว่า คำว่าเอื้อเอกชน ต้องดูขอบเขตว่าทอท.เอื้อตัวเองหรือเอื้อเอกชน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีบางสัญญา ที่ทอท.ไม่กล้าทำอะไรเลย แต่ปรากฎว่า เกิดความเสียหายมากกว่า หากมีการยอมแก้ไขบางอย่าง ซึ่งเรื่องคิงเพาเวอร์ฯนี้ ไม่ว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด ขอให้มั่นใจว่าคณะทำงานฯ​จะตัดสินใจภายใต้ ผลประโยชน์ของทอท. ผู้ถือหุ้น และผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ปัจจุบัน ทอท.ยังมีสถานะทางการเงินมั่นคงแข็งแรงและยังมีแผนหารายได้เพิ่ม จากแหล่งอื่นๆ เช่น รายได้จากค่าใช้บริการระบบไฟฟ้า 400 Hz ระบบปรับอากาศ PC AIR โครงการผู้ให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของผู้ประกอบการรายที่ 3 และการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์โดยรอบท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่งของ ทอท.ที่จะก่อให้เกิดรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) ซึ่ง ทอท.ยืนยันว่ายังคงมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับโครงการลงทุนในอนาคตและการดำเนินงาน ตามแผนที่วางไว้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินขององค์กร


กำลังโหลดความคิดเห็น