xs
xsm
sm
md
lg

ส่อผลประโยชน์ทับซ้อน! ทอท.ประมูล PPP “ภาคพื้น-คลังสินค้า” รายที่ 3 เจอ กก.รับซองฯ ถือหุ้น AOTGA หวั่นมีส่วนได้ส่วนเสีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทอท.ประมูล PPP "บริการภาคพื้น-คลังสินค้า" รายที่ 3 มูลค่ารวมกว่า 6.73 หมื่นล้านบาท ส่อผลประโยชน์ทับซ้อน เหตุพบกรรมการรับซองฯ ถือหุ้นใน AOTGA หลังมีเอกชนยื่นแค่ 2 ราย "AOTGA-แบ๊กส์บริการภาคพื้น" คณะกรรมการคัดเลือกฯ สั่งหยุดร่วมประชุมทุกขั้นตอน ยันแค่รับซองไม่มีอำนาจพิจารณา

รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. ได้มีการเปิดประมูลร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ พ.ศ. 2562) จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้น และกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 และโครงการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 โดยขายเอกสารประกวดราคา ระหว่างวันที่ 13 มีนาคม 2568-2 เมษายน 2568 กำหนดยื่นซองประมูลวันที่ 26 พฤษภาคม 2568

ปรากฏว่ามีผู้ซื้อซองไปจำนวน 5 ราย แต่มายื่นซองประมูลจำนวน 2 ราย คือ 1. บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (บพท.) หรือ AOTGA เป็นบริษัทลูกของ ทอท. 2.บริษัท แบ๊กส์บริการภาคพื้น จำกัด

@กรรมการรับซองฯ ถือหุ้น AOTGA หวั่นเข้าข่ายมีส่วนได้ส่วนเสีย

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 คณะกรรมการคัดเลือกฯ ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ พ.ศ. 2562 ที่มีนายศิโรตม์ ดวงรัตน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด) ทอท.เป็นประธาน ได้มีการประชุมพิจารณาคุณสมบัติ (ข้อเสนอซองที่ 1) แต่ตรวจพบว่าพนักงาน ทอท.รายหนึ่งซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการรับซองเอกสารคัดเลือกเอกชนฯ มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท AOTGA ทำให้ผู้แทนอัยการท้วงติงประเด็นการมีส่วนได้ส่วนเสีย และให้บุคคลดังกล่าวหยุดทำหน้าที่และห้ามเข้าห้องประชุมพิจารณาทั้งในฐานะคณะกรรมการรับซอง หรือในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายฯ ทอท.ที่เป็นหน้าที่ประจำ

กรณีดังกล่าวถือได้ว่า ทอท.ไม่ได้มีการตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการรับซองฯ และไม่ได้ให้ความสำคัญต่่อเรื่องความโปร่งใสหรือการมีส่วนได้ส่วนเสียในการประมูลโครงการต่างๆ ดีพอ เนื่องจากเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า วัตถุประสงค์ที่ ทอท.ตั้งบริษัทลูก AOTGA เพื่อเข้าประมูลโครงการคลังสินค้ารายที่ 3 และบริการภาคพื้นฯ รายที่ 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยที่ผ่านมาผู้บริหารทอท.มีการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาโดยตลอด ขณะที่พนักงาน ทอท.คนดังกล่าว จะต้องรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองถือหุ้นอยู่

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการคัดเลือกฯ กล่าวว่า กรณีคณะกรรมการรับซองฯ ถือหุ้นในบริษัท AOTGA นั้น เมื่อมีการตรวจพบได้สั่งให้บุคคลดังกล่าวหยุดเข้าร่วมทันที พร้อมกันนี้ ได้ให้ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ตรวจสอบตัวเองอีกครั้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีหุ้นในบริษัทที่เข้ายื่นประมูล

จากการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกฯ เห็นว่าคณะกรรมการรับซองฯ ไม่มีส่วนร่วมพิจารณาตัดสินใดๆ เพียงแต่ทำหน้าที่รับซองเอกสารและตรวจความถูกต้องครบถ้วนเบื้องต้นเท่านั้น

@"ปวีณา" ลาออกจาก กก.คัดเลือกฯ เหตุรักษาการ กอญ.เข้าข่ายมีส่วนได้ส่วนเสีย

นอกจากนี้ ในส่วนของ นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ได้ลาออกจากคณะกรรมการคัดเลือกฯ​ ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก เมื่อนางสาวปวีณาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ที่เป็นผู้บริหารสูงสุด จึงถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับบริษัทลูกที่เข้ามายื่นประมูล

ทั้งนี้ ยืนยันในส่วนของคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีการตรวจสอบและดำเนินการอย่างรอบคอบโปร่งใสตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ตามข้อเท็จจริงในขั้นตอนตั้งคณะกรรมการรับซอง และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ไม่มีใครทราบก่อนว่า จะมีบริษัทไหนยื่นประมูลบ้าง แต่เมื่อยื่นซองแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาถือหุ้นในบริษัทมี่ยื่นประมูลก็ต้องหยุดทำหน้าที่ทันที จึงอยากให้ความเป็นธรรมในการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ด้วย


รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้มีการพิจารณาคุณสมบัติแล้วพบว่าทั้ง 2 บริษัทผ่านการพิจารณา และเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิคและราคาต่อไป

สำหรับบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (บพท.) หรือ AOTGA เป็นบริษัทลูกของ ทอท. จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 โดย ทอท.ร่วมลงทุนกับบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (SAL) ด้วยทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท ทอท.ถือหุ้นในสัดส่วน 49% และ SAL ถือหุ้นในสัดส่วน 51%

โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้น และกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 วงเงินลงทุน 29,390.76 ล้านบาท แยกเป็นค่าลงทุนในสิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรอุปกรณ์ 1,608.76 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบำรุงรักษา 27,782.01 ล้านบาท ระยะเวลา 25 ปี

กำหนดคุณสมบัติ กรณีเป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท กรณีเป็นกลุ่มนิติบุคคล ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วของสมาชิกทุกรายที่คิดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนการถือหุ้นของสมาชิกทุกรายรวมกันไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท เป็นต้น

ด้านประสบการณ์ 1. ต้องมีประสบการณ์การปฏิบัติงานให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นฯ ในท่าอากาศยานนานาชาติอย่างน้อยจำนวน 1 แห่ง ไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยท่าอากาศยานดังกล่าวต้องเคยมีปริมาณจราจรทางอากาศไม่น้อยกว่า 40,000 เที่ยวบินต่อปี และให้บริการแบบครบวงจร

2. ต้องมีผลงานการปฏิบัติงานให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นฯ โดยมีปริมาณเที่ยวบินตามเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง คือ มีปริมาณเที่ยวบินให้บริการในท่าอากาศยานใดๆ เพียงแห่งเดียว ไม่น้อยกว่า 10,000 เที่ยวบินต่อปี ในช่วงระยะเวลา 10 ปีล่าสุด และเป็นผลงานที่เกิดขึ้นในท่าอากาศยานที่มีปริมาณจราจรทางอากาศรวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 40,000 เที่ยวบินต่อปี และต้องเป็นผลงานที่ประกอบด้วยการให้บริการเที่ยวบินลำตัวกว้างและลำตัวแคบ

หรือมีปริมาณเที่ยวบินที่ให้บริการจราจรทางอากาศรวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 40,000 เที่ยวบินต่อปี และต้องเป็นผลงานที่ประกอบด้วยการให้บริการเที่ยวบินลำตัวกว้างและลำตัวแคบ

ปัจจุบัน ทอท.ได้ให้สิทธิ 2 ราย ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการรายที่ 1) หมดสัญญาปี 2583 และบริษัท กรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด (ผู้ประกอบการรายที่ 2) หมดสัญญาปี 2569

ส่วนโครงการให้บริการคลังสินค้า (คาร์โก้) รายที่ 3 มูลค่า 37,914.56 ล้านบาท แยกเป็นค่าลงทุนในสิ่งปลูกสร้างอุปกรณ์และระบบ รวม 1,318.38 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบำรุงรักษา 36,596.18 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 25 ปี

กำหนดคุณสมบัติ กรณีเป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท กรณีเป็นกลุ่มนิติบุคคล ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วของสมาชิกทุกรายที่คิดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนการถือหุ้นของสมาชิกทุกรายรวมกันไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท เป็นต้น

ด้านประสบการณ์ 1. ต้องมีประสบการณ์การปฎิบัติงานให้บริการคลังสินค้าระหว่างประเทศในท่าอากาศยานนานาชาติอย่างน้อยจำนวน 1 แห่ง ไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยท่าอากาศยานดังกล่าวต้องเคยมีปริมาณจราจรทางอากาศไม่น้อยกว่า 40,000 เที่ยวบินต่อปี และให้บริการแบบครบวงจร

2. ต้องมีผลงานการปฏิบัติงานให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นฯ โดยมีปริมาณเที่ยวบินตามเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง คือ มีปริมาณสินค้าให้บริการในท่าอากาศยานใดๆ เพียงแห่งเดียว ไม่น้อยกว่า 20,000 ตันต่อปี ในช่วงระยะเวลา 10 ปีล่าสุด และเป็นผลงานที่เกิดขึ้นในท่าอากาศยานที่มีปริมาณจราจรทางอากาศรวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 40,000 เที่ยวบินต่อปี หรือมีปริมาณสินค้าจากท่าอากาศยานหลายแห่งรวมกันไม่น้อยกว่า 40,000 ตันต่อปี ในช่วงระยะเวลา 10 ปีล่าสุด

ปัจจุบัน ทอท.ให้สิทธิผู้ประกอบการจำนวน 2 ราย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (ผู้ประกอบการรายที่ 1) หมดสัญญาปี 2583 และ บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด (ผู้ประกอบการรายที่ 2) หมดสัญญาปี 2569


กำลังโหลดความคิดเห็น