กรมทางหลวงแจงเหตุไม้กั้นช่อง M-Pass/Easy Pass มอเตอร์เวย์ ด่านบางปะกง 2 ฟาดหน้ารถผู้ใช้ทาง เร่งแก้ไขระบบ ยันตรวจสอบบำรุงรักษาตลอด พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย และสอบกรณีเจ้าหน้าที่สื่อสารไม่ดี
จากกรณีคลิปในสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่กรณีไม้กั้นช่องทางด่านฯ บางปะกง 2 มอเตอร์เวย์ ฟาดหน้ารถเพราะจิ้งจกวิ่งผ่าน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 กรมทางหลวง (ทล.) ชี้แจงว่า กรมทางหลวง โดยกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เป็นผู้ดูแลควบคุมกำกับการเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 และหมายเลข 9 โดยจ้างเหมาเอกชนดูแลและบำรุงรักษา ระบบควบคุมการจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียม ทั้งในระบบเก็บเงินแบบเงินสด (MTC) และระบบเก็บเงินแบบอัตโนมัติ (M-Pass/Easy Pass) โดยเอกชนจะต้องเข้ามาดูแลตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบฯ ตามรอบของการบำรุงรักษาเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในกรณีที่เกิดปัญหา เอกชนจะต้องเร่งเข้าซ่อมแซมแก้ไข เพื่อให้ระบบฯ กลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเร็ว
โดยกรมทางหลวงได้ตรวจสอบข้อมูลภาพในคลิปวิดีโอตามข่าว พบว่าช่องเก็บเงินอัตโนมัติ (M-Pass/Easy Pass) ที่ด่านฯ บางปะกง 2 ช่องทาง EN03 ในวันที่เกิดเหตุวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 นั้น ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาไม่เคยพบกรณีไม้กั้นที่ช่องทางฟาดหน้ารถผู้ใช้ทางมาก่อน เหตุการณ์ดังกล่าวจึงเป็นครั้งแรกที่ด่านฯ บางปะกง
จากปัญหาดังกล่าวสามารถแบ่งประเด็นปัญหาสรุปได้เป็น 2 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 1 ปัญหาที่เกิดจากระบบฯ กรมทางหลวง โดยกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง จะเร่งดำเนินการกำกับดูแลและกำชับให้เอกชนผู้รับจ้างดำเนินการตรวจสอบระบบที่ช่องทางของด่านฯ บางปะกงใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ทาง
ประเด็นที่ 2 การให้ข้อมูลและการสื่อสารกับผู้ใช้บริการหน้างาน จากเนื้อข่าวพบว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ให้ข้อมูลขั้นตอนการปฏิบัติงานของด่านฯ คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ กรมทางหลวงจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากไม่ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติก็จะมีการลงโทษตามระเบียบต่อไป พร้อมทั้งมีการว่ากล่าวตักเตือน กำชับให้พนักงานให้ดำเนินการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานของด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางที่กำหนดโดยเคร่งครัดต่อไป ทั้งนี้จะดำเนินการจัดการฝึกอบรมเพื่อกำชับก่อนการปฏิบัติงานหน้างานทุกวัน
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการของกรมทางหลวงเมื่อเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว กรมทางหลวงจะดำเนินการชดเชยค่าเสียหายทั้งหมดให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเอกชนผู้รับจ้าง
โดยกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ในเบื้องต้นผู้อำนวยการฝ่ายจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางได้มีการโทรศัพท์ติดต่อประสานงานเพื่อชดเชยค่าเสียหายแล้ว ซึ่งผู้เสียหายไม่ติดใจและไม่ขอรับการชดเชยจากกรมทางหลวง แต่ต้องการให้หน่วยงานปรับปรุงระบบฯ ให้มีประสิทธิภาพต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้กับผู้ใช้บริการรายอื่นอีกในอนาคต
