PTTGC ผนึก RRP ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาและนำเทคโนโลยีสกัดโลหะมีค่าจากตัวเร่งปฏิกิริยาใช้แล้ว ในกระบวนการผลิตปิโตรเคมีมาใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมไทยในการปลดล็อกของเสียอุตสาหกรรมที่เคยต้องส่งออกไปจัดการในต่างประเทศ
นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ไร้ท์ รีแอคติเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ RRP ผู้นำด้านเทคโนโลยีฟื้นฟู (Regeneration) ถ่านกัมมันต์ วัสดุดูดซับ และตัวเร่งปฏิกิริยา พัฒนาเทคโนโลยีการสกัดโลหะมีค่าจากตัวเร่งปฏิกิริยาใช้แล้วให้สามารถใช้งานได้จริงในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และสนับสนุนการหมุนเวียนทรัพยากรในประเทศ
ความร่วมมือนี้นำตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้แล้ว (Spent Catalyst) จากกระบวนการผลิตของ PTTGC เป็นวัตถุดิบนำร่อง ภายใต้กระบวนการที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งพัฒนาโดยองค์ความรู้ของคนไทย โดยบริษัทมีบทบาทเพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากการจัดการของเสียแบบเดิม สู่แนวทางที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน และสอดรับกับโมเดล BCG Economy ของประเทศไทย ที่มุ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า พัฒนานวัตกรรมจากทรัพยากรในประเทศ และสร้างการเติบโตบนฐานความยั่งยืน
”เรารู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในความสำเร็จของโครงการนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่สามารถสกัดโลหะมีค่าจากตัวเร่งปฏิกิริยาใช้แล้วได้สำเร็จ โดยความร่วมมือกับ RRP ครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ PTTGC ในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน ผ่านการ บูรณาการองค์ความรู้ เทคโนโลยี และความร่วมมือกับผู้ประกอบการในประเทศ โครงการนี้เป็นตัวอย่างของการสร้างคุณค่าร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันในระดับสากลได้อย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายทศพรกล่าว
นายณัฐสิทธิ์ ธีรกุลวาณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ รีแอคติเวชั่น จำกัด (มหาชน) (RRP) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ PTTGC ถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้เราสามารถเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดย PTTGC ไม่เพียงมอบความไว้วางใจให้เราใช้ Spent Catalyst จากกระบวนการผลิตเป็นวัตถุดิบนำร่อง แต่ยังร่วมผลักดันให้โครงการก้าวสู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรมและต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ความสำเร็จในการสกัดโลหะมีค่าจากของเสียอุตสาหกรรมครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยลดปริมาณของเสียอันตราย แต่ยังเพิ่มมูลค่าของทรัพยากร ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน และสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืน”
ตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) เป็นองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยมีส่วนประกอบของโลหะมีค่า เช่น แพลทินัม พัลลาเดียม และซิลเวอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เมื่อหมดอายุการใช้งาน ตัวเร่งเหล่านี้จะกลายเป็นของเสีย (Spent Catalyst) ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถจัดการได้ในประเทศ จึงต้องพึ่งพาการส่งออกไปต่างประเทศเพื่อนำไปสกัดแยกโลหะ ส่งผลให้มีต้นทุนสูงและสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
ภายในงาน “Urban Mining: Unlocking the Future with Precious Metal Recovery” ได้มีพิธี ส่งมอบโลหะมีค่าที่สกัดได้จากตัวเร่งปฏิกิริยาใช้แล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้า ในการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรมไทย ถือเป็นความสำเร็จ GC StandOut ที่กล้าคิด กล้าทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจ