กรมทางหลวงลงนามข้อตกลงคุณธรรม โครงการมอเตอร์เวย์ M5 และ M9 มุ่งโปร่งใสทุกขั้นตอน เตรียมเปิดเอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP วงเงินกว่า 87,000 ล้านบาท
วันนี้ (11 มิถุนายน 2568) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ได้ลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 (M5) ช่วงรังสิต-บางปะอิน และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (M9) ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง ร่วมกับผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรมจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โดยมีผู้บริหารจากกรมทางหลวง, ACT และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแสดงเจตจำนงในการดำเนินโครงการอย่างสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
สำหรับการลงนามข้อตกลงคุณธรรมในครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สังเกตการณ์จากภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ไปจนถึงการลงนามในสัญญา เพื่อให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล
โครงการทั้งสองมีวงเงินลงทุนรวมกว่า 87,393 ล้านบาท โดยโครงการ มอเตอร์เวย์ M5 (ช่วงรังสิต-บางปะอิน) มีวงเงินลงทุนประมาณ 31,358 ล้านบาท ดำเนินการในรูปแบบ PPP Gross Cost เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง ดำเนินงาน และบำรุงรักษาโครงการ รัฐเป็นเจ้าของรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมด และจ่ายค่าตอบแทนให้เอกชนตามผลการดำเนินงาน (Performance-Based Payment) โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการไม่เกิน 34 ปี
แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1: การออกแบบและก่อสร้าง (ไม่เกิน 4 ปี)
ระยะที่ 2: การดำเนินงานและบำรุงรักษา (30 ปี)
โครงการมอเตอร์เวย์ M9 (ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง) วงเงินลงทุนประมาณ 56,035 ล้านบาท ดำเนินการในรูปแบบ PPP Net Cost โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง ดำเนินงาน และบำรุงรักษา พร้อมมีสิทธิในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ขณะที่รัฐยังคงถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เอกชนลงทุน ระยะเวลาดำเนินโครงการรวม 34 ปี
แบ่งเป็น ระยะที่ 1: การออกแบบและก่อสร้าง (4 ปี) ระยะที่ 2: การดำเนินงานและบำรุงรักษา (30 ปี)
จากการประเมินผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งสองโครงการคาดว่าจะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมกันไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท โดยโครงการ M5 คาดว่าจะสร้างมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ประมาณ 7,928 ล้านบาท และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 120,000 ล้านบาท โครงการ M9 คาดว่าจะสร้างมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ประมาณ 18,069 ล้านบาท และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 200,000 ล้านบาท
กรมทางหลวงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองให้มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมดำเนินการอย่างสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การจ้างงาน การลงทุน และการยกระดับระบบโลจิสติกส์ของไทยสู่ความยั่งยืนในระยะยาว