xs
xsm
sm
md
lg

จับตา! GULF จ่อขายโรงไฟฟ้าใน H2/68 “สารัชถ์” ชี้ M&A โครงการใหม่ปีนี้อาจไม่มี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



GULF ยันเดินหน้าลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ในปี 68 แม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลง “สารัชถ์” เผยการลงทุน M&A โครงการใหม่ในปีนี้อาจไม่มี ขอ Wait&See พร้อมส่งสัญญาณจ่อขายโรงไฟฟ้าในครึ่งหลังปีนี้ ระบุเป็นเรื่องปกติการทำธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัว

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ GULF เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทยังเดินหน้าการลงทุนตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้แม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่หากเป็นการลงทุนโครงการใหม่ๆ หรือการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ในปีนี้ยังไม่น่ามี ซึ่งการลงทุนใหม่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เราก็คง Wait & See เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ในครึ่งปีหลังนี้อาจจะเห็นการขายสินทรัพย์หรือโรงไฟฟ้าออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำเป็นประจำของบริษัท เมื่อมีการลงทุนหรือซื้อกิจการโครงการก็จะมีการขายสินทรัพย์ออกไป โดยบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาทั้งโรงไฟฟ้าในและต่างประเทศ เมื่อมีเรื่องนโยบายภาษีสหรัฐฯทำให้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากพบว่าโครงการไม่ Match กับแผนการลงทุนระยะกลางและยาวของบริษัทก็ต้องปรับแผนใหม่ แต่ยืนยันว่าการขายโรงไฟฟ้าไม่ใช่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

โดยก่อนหน้านี้ GULF ขายหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ประเทศเยอรมนี Borkum Riffgrund 2 ในสัดส่วน 50% ให้แก่ Keppel Group มูลค่าการขาย 305 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทเมื่อเดือนสิงหาคม 2565

นายสารัชถ์กล่าวว่า แผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศไทยในอนาคตนั้น บริษัทคงต้องรอความชัดเจนของแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ก่อน หลังจากการจัดทำแผน PDP ล่าช้ามา 3-4 ปี ส่วนในต่างประเทศก็ศึกษาไว้หลายประเทศ ทั้งอเมริกา ยุโรปและประเทศแถบเอเชีย แต่ยังไม่เจาะจงว่าจะเลือกลงทุนที่ใด ขึ้นกับผลตอบแทนของโครงการต้องสูงสุด

ส่วนแผนลงทุนใน KBANK ขณะนี้ยังไม่มีแผนเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ดี เป็นห่วงอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็ก (SME) ที่ไม่กล้าผลิตสินค้าใหม่ออกมามากนัก เนื่องจากกังวลการขึ้นภาษีสหรัฐฯ ส่งผลการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยชะลอตัวลง แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการได้เนื่องจากมีหลายนโยบายที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี แม้ว่า GDP ชะลอตัวลง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ไฟมากนัก เนื่องจากมีการลงทุนโครงการ Data Center และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้ามามากในไทย โดยเฉพาะ Data Center เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้ามากรวมแล้ว 3-4พันเมกะวัตต์ และขณะนี้ก็ยังไม่เห็นการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงแต่อย่างใด

ส่วนทิศทางเศรษฐกิจในปี 2569 มองว่าเศรษฐกิจยังท้าทาย ตัวเลข GDP ลดลงมาค่อนข้างมาก แต่จริงๆ แล้วต้องเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน หากไทยมี GDP ถดถอยกว่าประเทศอื่นก็จะเกิดการไหลออกของเงินทุนไปยังประเทศอื่นแทน เชื่อว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอยู่ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทยก็เร่งปรับตัวภายใต้กฎกติกาใหม่ของโลก


เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ประกาศความเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล “ไทยลีก” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เป็นระยะเวลา 4 ฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 ถึง 2028/29 พร้อมเงื่อนไขพิเศษต่ออีก 2 ฤดูกาล

เดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการกีฬาไทย กับการถ่ายทอดสดครบทุกลีกฟุตบอลระดับประเทศเป็นครั้งแรก รายการไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3, ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ และฟุตบอลถ้วย ลีก คัพ รวมถึงฟุตบอลลีกเยาวชน U-21, ฟุตบอลหญิงลีก 1 และ 2

นายสารัชถ์กล่าวว่า บริษัทได้สนับสนุนวงการกีฬาฟุตบอลมาเป็นระยะเวลา 10 กว่าปี และปัจจุบันมีบางทีมที่บริษัทสนับสนุนอยู่ ส่วนสาเหตุที่เข้ามาสนับสนุนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ เพราะอยากให้ทีมชาติไทยไปแข่งขันที่ต่างประเทศชนะ เป็นความฝันที่อยากเห็นบอลไทยไปบอลโลก

ความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตรเพื่อช่วยสนับสนุนวงการฟุตบอลไทย งบประมาณสนับสนุน 5 ปีรวม 2,000 ล้านบาท ส่วนในอนาคตจะมีการขยายไปยังกีฬาชนิดอื่นๆ อีกหรือไม่นั้น เชื่อว่าทาง AIS จะมีการพิจารณาถ่ายทอดสดกีฬาชนิดอื่นเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยังเน้นที่ฟุตบอลเป็นหลัก


กำลังโหลดความคิดเห็น