ผู้จัดการรายวัน 360 – “MR.D.I.Y.” เดินหน้าต่อเนื่อง วางแผนผุดอีก 500 สาขาในอีก 3 ปีจากนี้ด้วยงบ 6 พันล้านบาท เร่งเครื่องหลังถูกอินโดนีเซียแซงหน้าสาขาไปแล้ว พร้อมเพิ่มจำนวนโลคอลซัพพลายเออร์
นายอานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนขยายสาขาในไทยต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เปิดสาขาครบ 1,000 สาขาไปแล้ว (คือสาขาที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์งามวงศ์วาน) โดยวางเป้าหมายเปิดเพิ่มอีก 500 สาขา ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่ปีนี้จนถึงปีพ.ศ. 2570 โดยใช้งบลงทุนประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท หรือรวม 6,000 ล้านบาท
นายแอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดร้านครบ 1,000 สาขา ในเวลาเพียง 9 ปีถือเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง แต่ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากแค่ตัวเราเองเพียงลำพัง แต่เกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าของเรา และการทำงานอย่างทุ่มเทของพนักงานกว่า 10,000 คน ”
ก่อนหน้านี้ ไทยเป็นประเทศแรกที่ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 และมีสาขามากเป็นอันดับที่สองรองจากบริษัทแม่ที่มาเลเซีย แต่ปัจจุบันล่าสุดไทยตกเป็นอันดับที่สามแล้ว ในแง่ของจำนวนสาขา โดยมิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. อินโดนีเซีย มีสาขามากขึ้นมาเป็นอันดับที่สองแล้ว เมื่อปลายปีที่แล้วด้วยจำนวนมากกว่า 1,500 สาขา ซึ่งยังแซงหน้าบริษัทแม่ที่มาเลเซียที่มีสาขาที่ 1,300 สาขาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายอานุภาพ ยืนยันว่า ไทยยังคงเป็นตลาดหลักที่บริษัทแม่ยังมีนโยบายการลงทุนต่อเนื่อง เพราะยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มการเติบโตได้อีกมากรวมทั้งยังสามารถที่จะขยายร้านได้อีกมาก โดยช่วงต้นปีถึงขณะนี้เปิดสาขาใหม่ในไทยแล้วประมาณ 72 สาขา ปัจจุบันมีประมาณ 1,004 สาขา ส่วนสิ้นปีที่แล้วมีประมาณ 932 สาขา
“ทั้งนี้สาขาของเรากระจายทั่วประเทศแล้ว 77 จังหวัด โดยแบ่งเป็น ภาคกลางมากที่สุด 40% กรุงเทพและปริมณฑล 20% จากจำนวนสาขาทั้งหมด รองลงมาก็ภาคอีสาน ตอนนี้เราก็ลงตลาดระดับอำเภอแล้ว โดยบริษัทมีร้าน 3 รูปแบบคือ 1.เอ็กซ์เพรส ขนาดเล็ก พื้นที่ประมาณ 300 ตารางเมตร 2.แบบในศูนย์การค้าหรือพลาซ่า พื้นที่ 700-800 ตารางเมตร และ 3.แบบสแตนด์อโลน พื้นที่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป ด้วยจำนวนสินค้ามากกว่า 15,000 เอสเคยู มากที่สุดด้วยจำนวนมากกว่า 70%”
บริษัทฯได้เริ่มร้านโมเดลคอนเซ็ปท์ใหม่ 2.0 คือเริ่มที่ซีคอนสแควร์สาขาแรก และสาขาที่สองคือ เดอะมอล์งามวงศ์วาน แต่คงไม่ได้เปิดโมเดลใหม่นี้ทุกสาขา ขึ้นอยู่กับแต่ละทำเลและขนาดพื้นที่ที่ได้ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
ทั้งนี้ มิสเตอร์ดีไอวายมีสินค้าใน 6 กลุ่มหลักคือ หลัก คือ อุปกรณ์เฮ้าส์โฮลด์และฮาร์ดแวร์ รายได้หลักสัดส่วน 50% กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า กลุ่มสเตชั่นเนอรี่ กลุุ่มกีฬา กลุ่มของเด็กเล่น โดยเป็นสินค้านำเข้า 70% จากเครือข่ายซัพพลายเออร์และของมิสเตอร์ดีไอวายเอง และเป็นสัดส่วนสินค้าของไทยประมาณ 30% กับจำนวนซัพพลายเออร์ไทยกว่า 35 0 ราย ซึ่งบริษัทจะเพิ่มแบรนด์ของคนไทยต่อเนื่อง นอกนั้นยังมีสินค้าHouse Brand แบรนด์ DIY สัดส่วน 40% ของสินค้าทั้งหมด
กลยุทธ์ตลาด จะเน้นการทำตลาดแบบซีซันนัลต่างๆด้วยการวางสินค้าให้ตรงกับเทศกาล เช่น ปีใหม่, สงกรานต์, แบ็กทูสคูล, ฮาโลวีน เป็นต้น
“บริษัทฯวางเป้าหมายด้าน CAGR ไว้เฉลี่ยที่ 27.7% ต่อปี ซึ่งปีที่แล้วมีรายได้รวมประมาณ 16,200 ล้านบาท โดยมีจำนวนทรานส์แซคชั่นของลูกค้าปีที่แล้วรวมประมาณ 98.5 ล้านคน มากกว่าจำนวนประชากรไทยที่มีกว่า 60-70 ล้านคน พฤติกรรมลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะซื้อสินค้ามากกว่าที่ตั้งใจซื้อไว้ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 172-175 บาทต่อบิล หรือเฉลี่ย 4 ชิ้นต่อบิล” นายอานุภาพ กล่าว
