xs
xsm
sm
md
lg

“เนื้อแท้” ขยายฟู้ดเซอร์วิสลดเสี่ยง “บังโต” สั่งลุยเคเทอริ่ง-อาหารแปรรูป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 – “เนื้อแท้” เคลื่อนทัพ “โต ซิลลี่ฟูล” สั่งลุย ลดความเสี่ยงธุรกิจที่พึ่งพาแต่ร้านอาหารอย่างเดียว กระจายสู่ฟู้ดเซอร์วิส เซกเมนต์ใหม่ ทั้ง เคเทอริ่ง อาหารแปรรูป อออกนอกกรอบเนื้อวัว ส่วนร้านอาหารออกนอกกรอบปั้นแบนรนด์ใหม่ๆสร้างทางเลือกให้ผู้บริโภค


นายวีรชน ศรัทธายิ่ง หรือ โต ซิลลี่ฟูล ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง และนายนภศูล รามบุตร ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมพานี บี จำกัด ร่วมกันเปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและความผันผวนของภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงส่งผลให้เกิดปัจจัยเชิงลบกับธุรกิจร้านอาหาร "คอมพานี บี" ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารชั้นนำ ตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับตัวครั้งสำคัญ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้านไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และภาวะค่าครองชีพสูง ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการใช้จ่าย กำลังซื้อที่ลดลง ประกอบกับต้นทุนที่สูงขึ้น "คอมพานี บี" เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่

“ปีที่แล้ว ธุรกิจร้านอาหารของเราโตเพียง 5% เท่านั้น แต่ธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสโตมากถึง 100% และช่วง3เดือนแรกปีนี้ พบว่าธุรกิจร้านอาหารยังทรงๆไม่ตกลงมากนัก ซึ่งปีนี้เราจะมีการขยายธุรกิจใหม่ๆ และจะปรับสัดส่วนรายได้ใหม่เป็น ร้านอาหาร กับ ฟู้ดเซอร์วิส (นอกจากร้านอาหาร) เท่ากันอย่างละ 50% จากขณะนี้รายได้จากร้านอาหารสัดส่วนมากถึง 80% ส่วนฟู้ดเซอร์วิส 20% “ นายวีรชน กล่าว


เดิมมี สองธุรกิจหลักคือ ร้านอาหาร กับ ฟู้ดเซอร์วิส เพิ่งเริ่มทำไม่นาน ทำให้บริษัทมองการขยายธุรกิจเพื่อขยายพอร์ทโฟลิโอให้กว้างขึ้น ลดความเสี่ยง ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทจึงจะมุ่งเน้น การต่อยอดธุรกิจสู่ตลาดที่กว้างขึ้นอย่างการทำฟู้ดเซอร์วิส Food Service ผลิตอาหารแปรรูป และ เตรียมเปิด“เนื้อแท้ Catering” บริการอาหารจัดเลี้ยงควบคู่ไปกับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจร้านอาหาร โดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำในเรื่องตลาดเนื้อเมืองไทย ซึ่งบริษัทมีความต้องการใช้เนื้อวัว 720 ตันต่อปี หรือเฉลี่ย 60 ตันต่อเดือน

โดยธุรกิจใหม่ๆเช่น การรุกตลาดเนื้อแท้เคเทอริ่งมีการทดลองทำมาบ้างแล้ว แต่ปีนี้จะทำเต็มที่ ที่ผ่านมาทำตลาดในระดับ300 คน ตั้งเป้าที่จะไต่ระดับไปสู่ประมาณ 1,000คน

ส่วนการทำอาหารแปรรูปนั้น จะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปต่อเนื่องทั้งเนื้อวัว เนื้อไก่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด ผลิตภัณฑ์แรกที่เปิดตัวอย่างโดดเด่นและได้รับกระแสตอบรับดีคือ “เนื้อย่างซอสจิ้มแจ่ว ชีสโทสต์แซนวิช”ซึ่งกลายเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดีย จนทำให้สินค้าขาดตลาดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง เนื้อแท้ เอ็นเอสแอลผู้ผลิต และ เซเว่นอีเลฟเว่นช่องทางจำหน่าย


ในปี2568นี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้น ได้แก่ ลูกชิ้นเนื้อสูตรพิเศษ (คอนเซปต์ยุค 90’s) ถ่ายทอดความคิดถึงในรสชาติสไตล์ย้อนยุค ใช้เวลากว่า 2 ปี ในการพัฒนา ควบคู่กับการทำลูกชิ้นเอ็น และ ยังมีเนื้อหมักสูตรพิเศษ ที่มาพร้อมกันหลายรสชาติ เช่น เนื้อหมักเกาหลี, เนื้อหมักสมุนไพร, เนื้อหมักงา, เนื้อหมักกระเทียมกลิ่นเนย,เนื้อแดดเดียว ได้ทดลองรสชาติใหม่ ๆ และยังมีสินค้า Ready To Eat ที่กำลังพัฒนาสินค้า เพื่อคนที่อยากลองกินอาหารในสไตล์เนื้อแท้ ที่ไม่ได้มีโอกาสทานที่ร้าน

บริษัทฯ ได้ผนึกกำลังพันธมิตรยักษ์ใหญ่หลายราย ไม่ว่าจะเป็น CP ALL, 7-Eleven ที่มีช่องทางในการนำเสนอสินค้า Ready To Eat ของเนื้อแท้ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ Makro มีฐานลูกค้าหลักคือผู้ประกอบการร้านอาหาร
โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง (HoReCa) และร้านค้าปลีก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่มองหาเนื้อคุณภาพสูงและสามารถนำไปใช้ประกอบธุรกิจ NSL FOODS ผู้ผลิตอาหารชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการผลิตอาหารในปริมาณมากและมีคุณภาพมาตรฐานและยังมีส่วนร่วมกันพัฒนาสูตรและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับ "เนื้อแท้" เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยทางบริษัทพร้อมต่อยอด กับแบรนด์พันธมิตรเจ้าอื่นๆ ในตลาดสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไป


ในส่วนของธุรกิจร้านอาหาร บริษัทจะใช้กลยุทธ์ในการขยายแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆต่อเนื่อง แต่จะไม่เน้นการขยายสาขาในแบรนด์เดิม จากปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือ ตั้งแต่เนื้อแท้, เนื้อแท้ Wok กะ Steak, เนื้อแท้ Wok, The Beef Master, พันละวัน, เซียนเตี๋ยว และเนื้อแท้ Butchery ร้านขายเนื้อสด รวมมากกว่า 45 สาขา

อย่างไรก็ตามแบรนด์ที่มีความโดดเด่นในการขยายคือ เนื้อแท้ Wok กะ Steak, เนื้อแท้ Wok ที่ใช้พื้นที่ไม่มากและลงทุนน้อย ปัจจุบันมีรวม 18 สาขา ซี่งปีนี้จะเปิดอีก 8 สาขา ส่วนแบรนด์อื่นๆก็เติบโตไปตามปรกติ ซึ่งการที่่จะสร้างธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆน้้นก็เพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภค

อีกทั้งมีแผนที่จะรุกตลาดต่างประเทศด้วย ที่ผ่านมาในหลายประเทศที่ได้มีการติดต่อพูดคุยกันบ้างแล้ว เช่น มาเลเซีน จีน เป็นต้น แต่ยังไม่ใช่โครงการที่จะเห็นในเร็วๆนี้

สำหรับปีที่แล้ว2567 บริษัท มีรายได้รวมประมาณ 630 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท ส่วนปี2566 มีรายได้รวม 510 ล้านบาท และปี2568นี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 750 ล้านบาท อย่างไรก็ตามมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ตามเป้าหมายเดิมคือ ปี2570 ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 130 กว่าล้านบาท ซึ่งผู้ก่อตั้งทั้งสองมีหุ้นรวมกันมากที่สุด นอกนั้นจะมีกองทุนและมีนักลงทุนเข้ามาร่วมถือหุ้นด้วย














กำลังโหลดความคิดเห็น