ผู้จัดการรายวัน 360 – “อีฟ แอนด์ บอย” รุกหนักปี68 ลงทุน 600 ล้านบาท ขยายเพิ่มอีก 25สาขา มากที่สุดที่เคยเปิดมา พร้อมรุกตลาดจังหวัดใหม่ๆ มั่นใจตลาดบิวตี้ไทยมูลค่า 2.8 แสนล้านบาท ยังโตได้อีกมาก ชี้ตลาดบิวตี้ในไทยยังเล็กกว่า ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ถึง 4 เท่า พร้อมอัปเกรดลอยัลตี้โปรแกรมใหม่
นายหิรัญ ตันมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีฟ แอนด์ บอย จำกัด เปิดเผยว่า ปี2568 นี้ จะเป็นปีที่บริษัทมีการขยายสาขาใหม่เพิ่มมากที่สุดที่เราเคยทำมา วางเป้าปีนี้เปิดรวม 25 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพและปริมณฑลกับต่างจังหวัดเท่ากัน และจะเปิดสาขาในจังหวัดใหม่ที่ไม่เคยเปิดเลยเช่น อุบลราชธานี ด้วยงบลงทุนรวม 600 ล้านบาท เป็นสาขาขนาดใหญ่มาตรฐานทั้งหมดพื้นที่เฉลี่ย 300- 500 ตารางเมตร ซึ่งปีนี้เปิดไปแล้ว 5 สาขา ปัจจุบันมีสาขารวม 45 สาขา แบ่งเป็น ในกรุงเทพ 26 สาขา และต่างจังหวัด 19 สาขา คาดว่าสิ้นปีนี้จะมี 65 สาขา ขณะที่ปีที่แล้วเปิดใหม่ 18 สาขา
สำหรับโลเกชันที่เลือกเปิดต้องมีศักยภาพ เป็น Strategic Location รวมถึงยังเน้นเจาะกลุ่มไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ EmSphere, Platinum, Terminal 21 Asok, Siam Premium Outlet ทั้งยังมีการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด
ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายระยะยาวภายในปี 2571จะต้องมีร้านเปิดบริการครบประมาณ 140 สาขา ในทุกพื้นที่ทั้งสแตนด์อโลน ในศูนย์การค้า ในชอปปิ้งมอลล์ ในต่างจังหวัด โดยสัดส่วนช่องทางรายได้ ปัจจุบันมาจากหน้าร้านหรือออฟไลน์มากถึง 90% และมาจากออนไลน์ 10% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท เติบโต 40% และปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 30% ซึ่งเป็นการเติบโตมากกว่าตลาดรวมบิวตี้ในไทยที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 2.8 แสนล้านบาท
กลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนเติบโตมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มเครื่องสำอาง (MAKEUP) โตมากถึง 45% ตามมาด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (SKINCARE) 40% กลุ่มน้ำหอม (FRAGRANCE) 35% และกลุ่มอื่น ๆ ก็ยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และไตรมาสแรกของปี 2568มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่ 30% โดยมาจากการขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และยังมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดกับสาขาเดิมเพื่อรองรับการเติบโตในปีนี้เช่นเดียวกัน
“โอกาสของตลาดความงามหรือบิวตี้ในไทยยังมีการเติบโตได้อีกมาก แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี แต่คนเราก็ยังต้องการดูแลตัวเอง เราจึงมองว่ายังมีช่องว่างของตลาดอีกมากการขยายสาขาต่อเนื่อง ซึ่งตลาดบิวตี้ในไทยเองก็ยังเล็กมากด้วย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นอย่างเช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เป็นต้น ที่เราเล็กกว่าเขามากถึง 4 เท่า” นายหิรัญ กล่าว
ตลาดความงามไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าระบุว่า ปี 2567 ตลาดความงามไทยมีมูลค่าสูงถึง 2.81 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 10.4% ปัจจัยเกื้อหนุนที่ทำให้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องมาจากช่องทางการขายผ่านอีคอมเมิร์ซที่ยังโตแรง รวมถึงความนิยมของเครื่องสำอางแบรนด์ไทยโดยเฉพาะกลุ่มสินค้า SMEs ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนั้นแล้ว แบรนด์ไทยเองก็มีการเติบโตมากขึ้น ซึ่งยอดขายของสินค้าแบรนด์ไทยที่มียอดขายมากกว่า1 พันล้านบาทต่อปีก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเติบโตตามไปด้วย ผู้บริโภคคนไทยเองก็หันมานิยมและยอมรับใช้แบรนด์ไทยมากขึ้น เพราะการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์และคุณภาพ รวมท้ังการทำตลาดต่าง ๆ ซึ่ังสัดส่วนการขายและปริมาณสินค้าของแบรนด์ไทยก็เริ่มมากขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่เราทำธุรกิจมาเกือบ 20 ปี แบรนด์ไทยโตเร็วมากนับตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตามนอกจากความเชื่อมั่นในด้านโอกาสการขยายสาขาแล้ว ยังเป็นความเชื่อมั่นในแง่ของจุดเด่นที่อีฟแอนด์บอยมี 5 ปัจจัยหลักคือ 1.การมีวาไรตี้ความหลากหลายของสินค้า 2.การวางราคาที่เข้าถึงผู้บริโภค 3.การมีสินค้าที่หลากหลายทั้งเอ็กซ์คลูซีฟทั้งด้านแบรนด์และเอสเคยูของสินค้า 4.การมีบริการพิเศษ เช่น อบรมการแต่งหน้า 5.ความมั่นใจในสินค้าที่เป็นของจริงไม่มีปลอม
นายหิรัญ กล่าวด้วยว่า ปีที่ผ่านมาตลาดบิวตี้คึกคักมาก มีสินค้าออกใหม่ค่อนข้างหลากหลายโดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอาง ทำให้ลูกค้าช็อปสนุกมากขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้น รวมถึงการสื่อสารบนช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น โดยกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศ ถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเราที่มีอัตราการเติบโตสูง รวมถึงยังเป็นกลุ่มที่มีอัตราการซื้อซ้ำ และเป็นกลุ่มลูกค้า Loyalty ที่เหนียวแน่น เข้ามาช็อปปิ้งที่ร้านสม่ำเสมอ ซึ่งทาง EVEANDBOY มีการวางกลยุทธ์ทางตลาดที่ทำให้ลูกค้านึกถึงเราเป็นที่แรกเมื่อมีสินค้าออกใหม่หรือต้องการอัปเดตเทรนด์สินค้าใหม่ ๆ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำการตลาดของ EVEANDBOY มาโดยตลอด”
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Loyalty Program รูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ ‘Ebbie Card’ (เอบบี การ์ด) ซึ่งจะช่วยให้ EVEANDBOY รักษาฐานลูกค้าเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการซื้อสินค้าตลอดอายุสมาชิก โดย Ebbie Card มีสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ ส่วนลดพิเศษ, ดีลพิเศษเฉพาะสมาชิก, Gift Set สำหรับเดือนเกิด, สิทธิ์ในการซื้อสินค้าออกใหม่ก่อนลูกค้าทั่วไป, สิทธิ์เข้าร่วมในกิจกรรมหรืออีเวนต์ Exclusive เป็นต้น ปัจจุบันมีสมาชิก 2.7 ล้านราย ตั้งเป้าเพิ่มอีก 40% ในปีนี้
ล่าสุด EVEANDBOY จัดกิจกรรมพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลสินค้าขายดีทั้ง145 รางวัล ประจำปี 2024 ภายใต้ชื่อ EVEANDBOY BEAUTY AND THE BEST โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม – 19 มิถุนายน 2568 กับโปรโมชันพิเศษเอาใจลูกค้าสายบิวตี้ทั่วประเทศ ทั้งการช็อปปิ้งผ่านช่องทางหน้าสาขาทั้ง 45 สาขา และออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน EVEANDBOY เท่านั้น และโปรโมชันพิเศษสำหรับ 2 สาขา ได้แก่ THE UNDERGROUND SIAM SQUARE ONE ชั้น LG และ MEGA BANGNA ชั้น 1 พบกับบูทกิจกรรมผลิตภัณฑ์ที่สุดแห่งปี ส่วนลดพิเศษ