HOPEFUL แถลงกรณีสินค้าถูกปลอม มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ย้ำ “สิ่งที่โกรธที่สุดไม่ใช่การโดนก๊อปปี้… แต่คือการที่ลูกค้าเราได้รับอันตราย”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนจากบริษัทเจ้าของสิทธิ์ ได้เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าปลอมในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จากการตรวจค้นพบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าจำนวนกว่า 78,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 52 ล้านบาท โดยหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากปฏิบัติการครั้งนี้คือ HOPEFUL (โฮปฟูล) ซึ่งพบผลิตภัณฑ์ปลอมในมูลค่ารวมเกือบ 20 ล้านบาท ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในแง่เศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการ ปอศ. ซึ่งได้รับเบาะแสเกี่ยวกับเครือข่ายต่างชาติที่ลักลอบนำเข้าสินค้าปลอมเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยอาศัยโกดังเก็บสินค้าชานเมืองเป็นแหล่งซุกซ่อนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร และเข้าทำการตรวจค้น พบของกลางแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เช่น อาหารเสริม ครีมบำรุง โลชั่น วิตามิน กว่า 73,000 ชิ้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เคสโทรศัพท์ วิทยุ หลอดไฟ กว่า 2,900 ชิ้น และสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รวมกว่า 1,400 ชิ้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนได้ 2 ราย พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเอกสารทางการเงินเพื่อขยายผลเส้นทางการค้า และหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เป็นคนไทย
นายอรรคพล หยกยิ่งยง ผู้บริหารบริษัท HOPEFUL (โฮปฟูล) เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้มาจากคำร้องเรียนของลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งบริโภคผลิตภัณฑ์ของ HOPEFUL (โฮปฟูล) อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 8 เดือนและมีสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่เมื่อตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ที่มีราคาถูกกว่า กลับมีอาการผิดปกติหลังรับประทานผลิตภัณฑ์เพียงเม็ดแรก จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เมื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยว่าเป็นของปลอมมาเปรียบเทียบกับของแท้ พบความแตกต่างหลายประการ ทั้งในเรื่องของสีสันบรรจุภัณฑ์ รายละเอียดบนฉลาก และกลิ่นของเม็ดยา ซึ่งมีกลิ่นฉุนผิดปกติ การเปรียบเทียบดังกล่าวได้นำไปสู่การเริ่มต้นการสืบสวน และร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ จนสามารถตรวจค้นและทลายโกดังสินค้าปลอมในครั้งนี้ได้สำเร็จ
นายอรรคพล หยกยิ่งยง ย้ำว่า “เราไม่โกรธที่มีคนลอกเลียนสินค้าโฮปฟูล เพราะหากสินค้าเราไม่มีคุณค่า คงไม่มีใครคิดจะปลอม แต่สิ่งที่โกรธที่สุดไม่ใช่การโดนก๊อปปี้… แต่คือการที่ลูกค้าเราได้รับอันตราย ทั้งที่พวกเขาไว้ใจเรา” พร้อมระบุว่า HOPEFUL (โฮปฟูล) ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของผู้บริโภค เพราะทุกผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจสอบและวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารเสริม แต่เป็นโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ HOPEFUL (โฮปฟูล) ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของแท้เพื่อความปลอดภัย โดยควรซื้อผ่านผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจากบริษัท ซึ่งจะมีบัตรแสดงตนอย่างเป็นทางการ และได้รับการอบรมความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โดยตรง อีกทั้งบริษัทไม่มีการตั้งราคาที่แตกต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม หากพบราคาถูกผิดปกติ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นของปลอม ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตได้ทางเว็บไซต์ https://hopeful.co.th/agents หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 02-101-0641
ในตอนท้าย HOPEFUL ย้ำจุดยืนว่า “สุขภาพที่ดีควรเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน เราจึงไม่หยุดพัฒนา และจะไม่ยอมให้ผู้บริโภคต้องเผชิญอันตรายจากของปลอม เราไม่ได้ขายแค่อาหารเสริม แต่เราขายคุณภาพชีวิต” บริษัทพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในการปราบปรามสินค้าปลอม และดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่าทุกผลิตภัณฑ์จาก HOPEFUL ปลอดภัยและมีคุณภาพตามมาตรฐานที่ตั้งใจไว้.
หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าปลอม กรุณาแจ้งเบาะแสได้ที่
เว็บไซต์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง: https://cib.go.th
หรือ Facebook: ตำรวจสอบสวนกลาง