xs
xsm
sm
md
lg

IRPCลดคชจ.-สเปรดสูงดันQ2แจ่ม จ่อขายสินทรัพย์สร้างเงินสด-กำไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไออาร์พีซีมั่นใจไตรมาส2/68ดีขึ้น หลังเน้นบริหารต้นทุนมากขึ้นและลดค่าใช้จ่ายและสินค้าคงคลัง และสเปรดปิโตรเคมีดีขึ้นพร้อมเร่งแปลงสินทรัพย์เป็นทุนสร้างกระแสเงินสดเพิ่ม

นางสาวเอธิตา อนันตธุรการ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส การเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินในไตรมาส 2/2568 บริษัทเน้นบริหารต้นทุนอย่างเข้มงวดมากขึ้นหลังจากไตรมาส1/2568 บริษัทขาดทุนสุทธิ 1,206ล้านบาท ขณะที่สเปรดปิโตรเคมีมีสัญญาณพื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการไตรมาส2นี้ รวมทั้งบริษัทได้จัดตั้งวอร์รูมรับมือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

"ไตรมาส 2/2568 บริษัทพยายามที่จะบริหารจัดการทุกส่วนของผลประกอบการให้ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ถ้ามีปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่นอกเหนือการควบคุมจะเป็นตัวกดดันผลประกอบการ "นางสาวเอธิตา กล่าว

ในปีนี้มีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น ทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์เข้มงวดขึ้น โดยจะนำสินทรัพย์ที่มีอยู่มาสร้างรายได้หรือแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (Asset Monetization) ยังไม่สามารถระบุชัดได้ว่าผลประกอบการในปีนี้จะกำไรหรือขาดทุนแต่คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น จากต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง และมีกำไรจากการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน การบริหารจัดการเงินลงทุน

ส่วนสถานการณ์ปิโตรเคมีตกต่ำค่อนข้างลากยาว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกทำให้มีความกังวลต่อการดำเนินงาน สภาพคล่องและเครดิตเรตติ้งของบริษัท ดังนั้นบริษัทเน้นการควบคุมดูแลค่าใช้จ่าย ยกระดับการดำเนินงาน (Uplift) การทำ Asset monetization ทั้งในส่วนที่เป็นท่าเรือและแทงค์ฟาร์ม ซึ่งมีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2567 จะขายที่ดินบางส่วนให้กับนักลงทุนที่ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีการเข้าไปคุยกับพาร์ทเนอร์แล้ว ประกอบกับในกลุ่ม บมจ.ปตท. มีนโยบายการทำ Asset monetization ทำให้มีการเข้าไปบริหารจัดการ ท่าเรือและแทงค์ฟาร์มอย่างจริงจัง คาดว่ามีความชัดเจนในเร็วๆนี้

ส่วนแผนจัดการเงินลงทุนบริษัทในเครือ ซึ่งอาจมีการเจรจาเพื่อขายเงินลงทุนให้กับนักลงทุนรายอื่นสนใจ ทำให้IRPCได้กระแสเงินสดเข้ามาในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องจนถึงปีหน้า โดยกระแสเงินสดที่เข้ามาจากการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนกับการบริหารจัดการเงินลงทุนของบริษัทลูก จะนำมาใช้ในสิ่งจำเป็นเร่งด่วน อาทิ การจัดการภาระหนี้สินทั้งดอกเบี้ยและภาระคืนหนี้ระยะยาว รวมทั้งบริหารสภาพคล่อง แม้ช่วงนี้สเปรดปิโตรเคมีและน้ำมันเริ่มฟื้น ดังนั้นบริษัทจะนำเงินส่วนที่เหลือจากกาภาระหนี้ มาใช้บริหารจัดการให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอในธุรกิจของบริษัท คาดการณ์ว่าธุรกิจปิโตรเคมีน่าจะกลับมาฟื้นตัวใน3ปีข้างหน้า

สำหรับราคาน้ำมันดิบที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ราคาปรับตัวลดลง บริษัทจะพยายามสร้างสมดุลโดยลดสินค้าคงคลังลงจากที่ระดับ 10 ล้านบาร์เรล จะปรับลดให้เลือกประมาณ 7 ล้านบาร์เรล เพื่อลดผลกระทบจากการขาดทุนสต็อก

นางสาวมนทกานติ์ นาราช ผู้จัดการอาวุโส นักลงทุนสัมพันธ์ IRPC กล่าวว่า ทิศทางค่าการกลั่นในไตรมาส 2-3/2568 คาดสเปรดอยู่ในระดับทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อย ได้แรงหนุนจากภูมิภาคที่มีการก่อสร้างและขนส่งในแถบเอเชีย หนุนการใช้น้ำมันดีเซล ประกอบกับสหรัฐเข้าสู่ฤดูการขับขี่ (Driving Season) สนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันเบนซิน

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยกดดันจากความกังวลความไม่แน่นอนนโยบายการค้าของสหรัฐ ที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย กดดันความต้องการใช้ปิโตรเลียมลง

สำหรับประเด็นที่กลุ่มโอเปกพลัส เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก คงต้องติดตามภาพรวมตลาดก่อนว่าราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร หากราคาลดลงแต่สเปรดยังคงที่ก็ไม่น่าจะกระทบกับบริษัทโดยตรง


กำลังโหลดความคิดเห็น