เมื่อกล่าวถึงสถาบันบริหารธุรกิจระดับโลกในประเทศไทย ชื่อ "สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" หรือ ศศินทร์ฯ มักปรากฏเป็นอันดับต้นๆ ในใจหลายคน ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ในการเป็นเบ้าหลอมผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่ สถาบันแห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ตอัปชั้นนำ แต่ยังเป็นผู้ขับเคลื่อนแนวคิดธุรกิจนวัตกรรมให้เกิดขึ้นจริง ผ่านการจัดการแข่งขัน Bangkok Business Challenge @ Sasin 2025 ซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 23 โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลักอย่าง บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC และ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ตอัปของประเทศไทย
"Growing Impactful Ventures" เส้นทางสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
การแข่งขัน Bangkok Business Challenge @ Sasin 2025 ปีนี้ยกระดับความท้าทายภายใต้แนวคิด "Growing Impactful Ventures" มุ่งส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ฯ เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์และพันธกิจของศศินทร์ฯ อย่างชัดเจนที่จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากทั่วโลก เชื่อมโยงเครือข่ายหลากหลายมิติ ทั้งนักศึกษา อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักลงทุน และผู้สนใจในแวดวงธุรกิจและสตาร์ตอัปจากทั่วโลก ผลักดันการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจสู่แนวทางที่ชาญฉลาดและยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคตของธุรกิจ
การแข่งขันนี้ดำเนินงานภายใต้การอุปถัมภ์ของ Asian Family Enterprise & Entrepreneurship Center (AFEEC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ใหม่ของศศินทร์ฯ ในการเป็น "สถาบันการจัดการชั้นนำระดับโลกสำหรับโลกแห่งอนาคต" โดยมุ่งบ่มเพาะและส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และจิตสำนึกด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้นำในโลกอนาคต
การสร้างผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ
ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค เน้นย้ำว่า การพัฒนาผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่คือหัวใจสำคัญของศศินทร์ฯ ในฐานะสถาบันการศึกษาระดับโลก ดังนั้นการแข่งขัน Bangkok Business Challenge @ Sasin 2025 มีบทบาทอันสำคัญยิ่งในการเสริมสร้างศักยภาพผู้นำธุรกิจผ่าน การบ่มเพาะทักษะผู้ประกอบการ ภายใต้โจทย์ที่ท้าทายให้นักศึกษาประยุกต์ใช้ความรู้ทางธุรกิจในการพัฒนาแผนธุรกิจที่เป็นรูปธรรม การสร้างประสบการณ์จริง ตั้งแต่การระดมความคิด การทำงานเป็นทีม การเผชิญความท้าทาย และการรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว การสร้างเครือข่าย กับผู้มีบทบาทสำคัญในวงการธุรกิจ ทั้งเพื่อนร่วมทีม อาจารย์ที่ปรึกษา นักลงทุน และผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเติบโตในเส้นทางอาชีพในอนาคต การกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นที่ธุรกิจที่มีความยั่งยืนและนวัตกรรม ซึ่งตอบโจทย์ทั้งความต้องการของตลาดและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
23ปีแห่งความสำเร็จคือคุณค่าที่ยั่งยืน
ความสำเร็จของการแข่งขันที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 23 ปี เกิดจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความมุ่งมั่นในการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันมาตรฐานระดับสากลและความน่าเชื่อถือ ด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา การปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับพลวัตของโลกธุรกิจและเทคโนโลยี โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและนวัตกรรม สุดท้ายคือ เครือข่ายที่แข็งแกร่งและเติบโต ทั้งจากสถาบันและพันธมิตรสำคัญอย่าง SCGC และ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย
"นอกเหนือจากการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลแล้ว Bangkok Business Challenge @ Sasin ยังมอบโอกาสอันล้ำค่าให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ พัฒนาตนเอง สร้างเครือข่าย และได้รับแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นคุณค่าที่ยั่งยืนและส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาว เวทีนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน แต่เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ การสร้างเครือข่าย และการสร้างแรงบันดาลใจที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผู้นำทางธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะสร้างสรรค์โลกที่ดีขึ้นในอนาคต" ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค กล่าวสรุป
แนวคิดธุรกิจที่ยกระดับ สังคม สิ่งแวดล้อม คือ หัวใจของสตาร์ตอัป
ต่อกันที่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC โดย ดร. สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการและนวัตกรรม SCGC กล่าวว่า SCGC มุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ควบคู่ไปกับความยั่งยืน โดยการแข่งขัน Bangkok Business Challenge @ Sasin ครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพ และนำเสนอแนวคิดที่สามารถต่อยอดสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้จริง ดังนั้นสิ่งที่ SCGC มองหาจึงไม่ใช่เพียงแค่การสร้างธุรกิจใหม่เท่านั้น แต่แผนธุรกิจของผู้เข้าแข่งขันต้องสามารถเสริมศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้อย่างเป็นรูปธรรม หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนบทบาทของ SCGC ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและโซลูชันเชิงพาณิชย์ คือโครงการ Wake Up Waste สตาร์ตอัปด้านการจัดการขยะรีไซเคิลที่พัฒนาโดย SCGC เพื่อเสริมประสิทธิภาพระบบรีไซเคิล และสนับสนุนการหมุนเวียนทรัพยากรให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดย Wake Up Waste พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการขยะที่เชื่อมโยงผู้ดูแลอาคาร เจ้าของรถขนส่ง และโรงงานรีไซเคิลเข้าด้วยกัน พร้อมนำนวัตกรรมรถบีบอัดขยะมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งได้มากขึ้นถึง 5–10 เท่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มอัตราการรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ CERT+ สตาร์ตอัปที่นำนวัตกรรมการสำรว
จระยะไกลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการตรวจวัดคาร์บอนเครดิตจากป่าไม้ และบริหารจัดการการปลูกป่าอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ รองรับการเติบโตของตลาดคาร์บอนเครดิตในอนาคต
“สตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จในมุมมองของเรา ต้องสามารถผสานความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และความเข้าใจในเมกะเทรนด์ เพื่อพัฒนาโซลูชันที่สามารถขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง พร้อมทั้งรักษาความยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจของการเติบโต ไม่ใช่เพียงเพื่อผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่เพื่อสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับโลกใบนี้” ดร.สุรชา กล่าวสรุป
การแข่งขันที่เป็นฟันเฟืองยกระดับสตาร์ตอัปไทย
ด้าน นายรวี อ่างทอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เราเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของการแข่งขัน Bangkok Business Challenge 2025 ภายใต้ธีม “Growing Impactful Ventures” เป็นกำลังในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน แน่นอนว่าการแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันเพื่อประลองไอเดียของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรม การลงทุน และการเป็นผู้ประกอบการ โดยมีการผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ตลาดได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล นำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศที่มีความยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย เรามีเกณฑ์การประเมินสตาร์ตอัป ผ่านมุมมองที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ความสำเร็จและมูลค่าของโครงการ ที่จะต้องแสดงผลลัพธ์เชิงประจักษ์ ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจและผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นจริง การใช้เทคโนโลยีสร้างนวัตกรรม ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน ความสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์และตัวชี้วัด เนื่องจากธุรกิจต้องมีแผนที่ชัดเจน สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางที่วางไว้ สามารถวัดผลได้จริงผ่านตัวชี้วัดที่กำหนด คุณภาพกระบวนการผลิต การตลาด และภาพลักษณ์ในสายตาผู้บริโภค จะต้องครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การทำ CRM เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตลาดและลูกค้า เพื่อการดำเนินงานในอนาคตดังนั้นการแข่งขันในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่โอกาสของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับสตาร์ตอัปไทยให้ก้าวไกลบนเวทีโลกภายใต้กรอบความยั่งยืน
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม https://bbc.sasin.edu/2024 และ Facebook Page: Bangkok Business Challenge หรือ www.facebook.com/bangkokbusinesschallenge
"Growing Impactful Ventures" เส้นทางสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
การแข่งขัน Bangkok Business Challenge @ Sasin 2025 ปีนี้ยกระดับความท้าทายภายใต้แนวคิด "Growing Impactful Ventures" มุ่งส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ฯ เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์และพันธกิจของศศินทร์ฯ อย่างชัดเจนที่จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากทั่วโลก เชื่อมโยงเครือข่ายหลากหลายมิติ ทั้งนักศึกษา อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักลงทุน และผู้สนใจในแวดวงธุรกิจและสตาร์ตอัปจากทั่วโลก ผลักดันการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจสู่แนวทางที่ชาญฉลาดและยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคตของธุรกิจ
การแข่งขันนี้ดำเนินงานภายใต้การอุปถัมภ์ของ Asian Family Enterprise & Entrepreneurship Center (AFEEC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ใหม่ของศศินทร์ฯ ในการเป็น "สถาบันการจัดการชั้นนำระดับโลกสำหรับโลกแห่งอนาคต" โดยมุ่งบ่มเพาะและส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และจิตสำนึกด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้นำในโลกอนาคต
การสร้างผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ
ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค เน้นย้ำว่า การพัฒนาผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่คือหัวใจสำคัญของศศินทร์ฯ ในฐานะสถาบันการศึกษาระดับโลก ดังนั้นการแข่งขัน Bangkok Business Challenge @ Sasin 2025 มีบทบาทอันสำคัญยิ่งในการเสริมสร้างศักยภาพผู้นำธุรกิจผ่าน การบ่มเพาะทักษะผู้ประกอบการ ภายใต้โจทย์ที่ท้าทายให้นักศึกษาประยุกต์ใช้ความรู้ทางธุรกิจในการพัฒนาแผนธุรกิจที่เป็นรูปธรรม การสร้างประสบการณ์จริง ตั้งแต่การระดมความคิด การทำงานเป็นทีม การเผชิญความท้าทาย และการรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว การสร้างเครือข่าย กับผู้มีบทบาทสำคัญในวงการธุรกิจ ทั้งเพื่อนร่วมทีม อาจารย์ที่ปรึกษา นักลงทุน และผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเติบโตในเส้นทางอาชีพในอนาคต การกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นที่ธุรกิจที่มีความยั่งยืนและนวัตกรรม ซึ่งตอบโจทย์ทั้งความต้องการของตลาดและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
23ปีแห่งความสำเร็จคือคุณค่าที่ยั่งยืน
ความสำเร็จของการแข่งขันที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 23 ปี เกิดจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความมุ่งมั่นในการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันมาตรฐานระดับสากลและความน่าเชื่อถือ ด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา การปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับพลวัตของโลกธุรกิจและเทคโนโลยี โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและนวัตกรรม สุดท้ายคือ เครือข่ายที่แข็งแกร่งและเติบโต ทั้งจากสถาบันและพันธมิตรสำคัญอย่าง SCGC และ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย
"นอกเหนือจากการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลแล้ว Bangkok Business Challenge @ Sasin ยังมอบโอกาสอันล้ำค่าให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ พัฒนาตนเอง สร้างเครือข่าย และได้รับแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นคุณค่าที่ยั่งยืนและส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาว เวทีนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน แต่เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ การสร้างเครือข่าย และการสร้างแรงบันดาลใจที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผู้นำทางธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะสร้างสรรค์โลกที่ดีขึ้นในอนาคต" ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค กล่าวสรุป
แนวคิดธุรกิจที่ยกระดับ สังคม สิ่งแวดล้อม คือ หัวใจของสตาร์ตอัป
ต่อกันที่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC โดย ดร. สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการและนวัตกรรม SCGC กล่าวว่า SCGC มุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ควบคู่ไปกับความยั่งยืน โดยการแข่งขัน Bangkok Business Challenge @ Sasin ครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพ และนำเสนอแนวคิดที่สามารถต่อยอดสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้จริง ดังนั้นสิ่งที่ SCGC มองหาจึงไม่ใช่เพียงแค่การสร้างธุรกิจใหม่เท่านั้น แต่แผนธุรกิจของผู้เข้าแข่งขันต้องสามารถเสริมศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้อย่างเป็นรูปธรรม หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนบทบาทของ SCGC ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและโซลูชันเชิงพาณิชย์ คือโครงการ Wake Up Waste สตาร์ตอัปด้านการจัดการขยะรีไซเคิลที่พัฒนาโดย SCGC เพื่อเสริมประสิทธิภาพระบบรีไซเคิล และสนับสนุนการหมุนเวียนทรัพยากรให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดย Wake Up Waste พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการขยะที่เชื่อมโยงผู้ดูแลอาคาร เจ้าของรถขนส่ง และโรงงานรีไซเคิลเข้าด้วยกัน พร้อมนำนวัตกรรมรถบีบอัดขยะมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งได้มากขึ้นถึง 5–10 เท่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มอัตราการรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ CERT+ สตาร์ตอัปที่นำนวัตกรรมการสำรว
จระยะไกลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการตรวจวัดคาร์บอนเครดิตจากป่าไม้ และบริหารจัดการการปลูกป่าอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ รองรับการเติบโตของตลาดคาร์บอนเครดิตในอนาคต
“สตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จในมุมมองของเรา ต้องสามารถผสานความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และความเข้าใจในเมกะเทรนด์ เพื่อพัฒนาโซลูชันที่สามารถขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง พร้อมทั้งรักษาความยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจของการเติบโต ไม่ใช่เพียงเพื่อผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่เพื่อสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับโลกใบนี้” ดร.สุรชา กล่าวสรุป
การแข่งขันที่เป็นฟันเฟืองยกระดับสตาร์ตอัปไทย
ด้าน นายรวี อ่างทอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เราเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของการแข่งขัน Bangkok Business Challenge 2025 ภายใต้ธีม “Growing Impactful Ventures” เป็นกำลังในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน แน่นอนว่าการแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันเพื่อประลองไอเดียของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรม การลงทุน และการเป็นผู้ประกอบการ โดยมีการผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ตลาดได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล นำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศที่มีความยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย เรามีเกณฑ์การประเมินสตาร์ตอัป ผ่านมุมมองที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ความสำเร็จและมูลค่าของโครงการ ที่จะต้องแสดงผลลัพธ์เชิงประจักษ์ ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจและผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นจริง การใช้เทคโนโลยีสร้างนวัตกรรม ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน ความสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์และตัวชี้วัด เนื่องจากธุรกิจต้องมีแผนที่ชัดเจน สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางที่วางไว้ สามารถวัดผลได้จริงผ่านตัวชี้วัดที่กำหนด คุณภาพกระบวนการผลิต การตลาด และภาพลักษณ์ในสายตาผู้บริโภค จะต้องครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การทำ CRM เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตลาดและลูกค้า เพื่อการดำเนินงานในอนาคตดังนั้นการแข่งขันในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่โอกาสของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับสตาร์ตอัปไทยให้ก้าวไกลบนเวทีโลกภายใต้กรอบความยั่งยืน
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม https://bbc.sasin.edu/2024 และ Facebook Page: Bangkok Business Challenge หรือ www.facebook.com/bangkokbusinesschallenge
