เมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมข้ามพรมแดนอาเซียน (ประเทศไทย) ร่วมมือกับ บริษัท Triple Panda Solution ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวศูนย์คัดสรรสินค้าอาเซียน (สถานีประเทศไทย) อย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานเลขที่ 267 ถ.เยาวราช กทม. โดยมีผู้แทนวงการธุรกิจไทย-จีนกว่า 50 คนเข้าร่วมพิธีเปิด อาทิ นายหลิน เหว่ย นายกบริหาร สมาคมการค้าและอุตสาหกรรมไทยจีน, นายเจิ้ง เหมี่ยวจิน นายกสมาคมนักธุรกิจไทย เจียงเจ้อฮู้, นางสาวกัว หยิ่นเฉียว ประธานกรรมการ บริษัท ซิงเสียนเยอะเป้า จำกัด และนายไป๋ ปิง ผู้จัดการใหญ่ ฐานบัญชาการอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เขตกว่างซี-อาเซียน
ทั้งนี้ ศูนย์แสดงสินค้าคัดสรรอาเซียน สาขาประเทศไทย มีพื้นที่จัดแสดงสินค้าขนาดกว่า 300 ตร.ม. พร้อมเสนอแพลตฟอร์มทดลองตลาดอาเซียนให้บริษัทจีนด้วยโมเดลต้นทุนต่ำเพียง 10 หยวน/สต็อกต่อวัน (ประมาณ 50 บาทไทย) ก้าวขึ้นเป็นแบบอย่างความร่วมมือการค้าใต้กรอบ RCEP
พลังสามัคคีรัฐ-เอกชน สร้างเส้นทางข้ามพรมแดน
พิธีเปิดเริ่มขึ้นเวลา 10.00 น. นางหวง หลิน หัวหน้าศูนย์เสริมศักยภาพอุตสาหกรรมข้ามพรมแดน สำนักงานใหญ่อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนอาเซียนกว่างซี กล่าวว่า "ถนนเยาวราชคือศูนย์รวมธุรกิจจีนร้อยปี ศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่เพียงสืบสานประเพณีการค้าเยาวราช แต่ยังเป็นสนามทดลอง 'การขยายตลาดแบบเบา' สำหรับ SME ในยุคดิจิทัล เราร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง บริษัท Triple Panda Solution ประเทศไทย จำกัด เพื่อให้บริการ One Stop ตั้งแต่ศุลกากร คลังสินค้าจนถึงจัดจำหน่าย ลดต้นทุนทดลองตลาดเหลือเพียงราคากาแฟวันละแก้ว"
นายหลิน เหว่ย นายกบริหาร สมาคมการค้าและอุตสาหกรรมไทยจีน กล่าวเน้นย้ำถึงวัตถุประสงค์หลักของการเปิดศูนย์คัดสรรสินค้าอาเซียน ในไทยว่า "เนื่องจากปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน ในทางการค้า ผู้บริโภคคือเสาหลักความสัมพันธ์ ศูนย์ฯ แห่งนี้ลดข้อจำกัด SME ด้วยการแบ่งปันพื้นที่และบริการครบวงจร สอดคล้องแนวคิด 'สร้างร่วมกัน'"
ทดลองตลาดต้นทุนต่ำ 10 หยวน/วัน (ประมาณ 50 บาทไทย) กระตุ้นตลาดใหญ่
ภายในศูนย์จัดแสดงสินค้าจีนกว่า 300 รายการ ตั้งแต่กุญแจอัจฉริยะอี้วู เครื่องใช้ไฟฟ้าฝอซาน ถึงกาแฟผูเอ่อร์หยุนหนาน นายเลี่ยว ผู้ประกอบการอุปกรณ์กีฬากล่าวว่า "ก่อนหน้านี้การลงทุนเปิดตลาดไทยต้องใช้ทีมและคลังสินค้าในคลังสินค้า ลงทุนเริ่มต้นต่อ SKU สูงกว่า 1 แสนหยวน ปัจจุบันใช้ค่าใช้จ่ายเพียง 1,800 หยวน/180 วัน/สกู เพื่อได้พื้นที่จัดแสดง สตรีมมิ่งและโอกาสเจรจาธุรกิจ ทำให้การทดลองหลายผลิตภัณฑ์พร้อมกัน ได้รับฟีดแบ็กทันที"
เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ เปิดเผยว่าในช่วงทดลองดำเนินการ มีบริษัทจีน 17 แห่งเจรจาธุรกิจกับผู้จัดจำหน่ายไทย สำเร็จแล้วเบื้องต้น 5 ราย นางสาวเจิ้ง ยวี่ซี ผู้ก่อตั้ง บริษัท Triple Panda Solution ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า "เราให้บริการโลจิสติกส์ 'ส่งถึงคลังสินค้าที่กรุงเทพฯ ภายใน 72 ชม.' เมื่อยอดสั่งซื้อทดลองถึง 100 ชิ้น จะเริ่มสต็อกสินค้าในประเทศ ช่วยแก้ปัญหาการส่งมอบข้ามพรมแดนจำนวนน้อย"
โอกาสใหม่ในย่านเก่า แสดงสินค้าออฟไลน์+ระบบดิจิทัล
การเลือกทำเลที่ตั้ง แถวถนนเยาวราช สะท้อนความเข้าใจลึกซึ้งในการผสานการตลาดดั้งเดิมกับดิจิทัล โดยศูนย์ฯ ตั้งอยู่ห่างจากพระบรมมหาราชวัง 1.2 กม. และเยาวราชเพียง 300 ม. คาดว่าจะมีผู้เข้าชมกว่า 5,000 คน/วัน หลังทดลองระบบคัดสรรสินค้า โดย "นักท่องเที่ยวและผู้เข้าชมงาน สามารถสแกน QR Code เพื่อดูข้อมูลสินค้าและกดไลค์ ส่วนผู้ซื้อไทยเจรจาและสั่งซื้อผ่านระบบซัพพลายเชนทันที โมเดล 'โชว์รูมหน้า คลังหลัง' ช่วยให้สินค้าจีนลงหลักปักฐานในอาเซียนด้วยความเสี่ยงที่ต่ำสุด"
อย่างไรก็ตามในอนาคตทางศูนย์ฯ เตรียมขยายเป็น "ฐานไลฟ์สตรีมมิ่งอีคอมเมิร์ซอาเซียน" โดยร่วมมือกับ TikTok Thailand ขณะเดียวกันโมเดลนี้จะขยายไปเวียดนามและมาเลเซีย คาดสร้างโอกาสใหม่ให้สินค้าไทยเข้าสู่ตลาดจีนและอาเซียน