ลุ้น “อิ๊งค์” นั่งหัวโต๊ะประชุม กพช.พรุ่งนี้ เคาะกรอบค่าไฟงวดปลายปี (ก.ย.-ธ.ค. 68) หลังจากค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 68 เคาะที่ 3.98 บาท/หน่วย โดยนำเงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินจากการไฟฟ้าจำนวน 12,200 ล้านบาทมาลดค่า Ft ลง 0.17 บาทต่อหน่วย
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2568 (ครั้งที่ 171) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) มีวาระพิจารณานโยบายและแนวทางการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้พิจารณาข้อเสนอการปรับค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ประจำงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ของ กฟผ. โดยมีมติให้ปรับค่า Ft จากเดิม 36.72 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 19.72 สตางค์ต่อหน่วย โดยนำเงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินจากการไฟฟ้า (Claw Back) จำนวนเงิน 12,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17 สตางค์ต่อหน่วย นำไปลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนผ่านค่า Ft ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บปรับลดลงจาก 4.15 บาทต่อหน่วย เป็น 3.98 บาทต่อหน่วย
ที่ประชุม กกพ.ยังมีวาระพิจารณาเรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรมตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2566-2573 ในส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการอีกด้วย
ที่ประชุม กพช.มีวาระรับทราบความคืบหน้าแนวทางการกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ และการดำเนินการต่อไปของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รวมถึงรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรมตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2566-2573
“รัฐบาลยืนยันเดินหน้าอย่างจริงจังในการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างรอบคอบและโปร่งใส โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมเร่งผลักดันการใช้พลังงานสะอาดควบคู่ไปกับการดูแลค่าไฟฟ้าให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน และลดภาระค่าครองชีพของคนไทยในระยะยาว” นางสาวศศิกานต์กล่าว