“เอกนัฏ”เร่งปราบปราม “อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ” เพื่อเพิ่มพื้นที่ใหม่ให้อุตสาหกรรมใหม่และธุรกิจในประเทศ รวมทั้งดึงการลงทุนต่างชาติที่ดีเข้าประเทศ สร้างการเติบโตต่อเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม พร้อมเร่งผลักดันพ.ร.บ.กากอุตสาหกรรมฉบับแรกของไทย
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษ ในงานเสวนา'Sustain Daily Talk 2025' หัวข้อ “เพิ่มขีดความสามารถ อุตสาหกรรมไทยด้วยการเงินสีเขียว-พลังงานสะอาด”ว่า การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมไปสู่โลกสีเขียว สิ่งที่ขาดอยู่คือเรื่องเงินทุน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ต้องพึ่งพาเงินทุนมาลงทุนผ่านการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เห็นสัญญาณสำคัญของโลก ทั้งสัญญาณความขัดแย้ง สงครามการค้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการขึ้นกำแพงภาษีกับประเทศคู่ค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ
ดังนั้นสิ่งที่แน่นอน คือเราอยู่บนความไม่แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งสงครามเศรษฐกิจและสงครามการค้าของโลก รวมทั้งปรากฎการณ์ภูมิอากาศ จากโลกร้อน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาไม่ใช่แค่แผ่นดินไหว แต่คือตึกถล่ม เป็นปัญหาส่งสัญญาณว่าไทยไม่มีความพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหว และภัยธรรมชาติ กลายเป็นสิ่งที่ส่งมาถึงสังคม และรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาไม่เคยปฏิรูปปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของไทย และวันนี้ระบบเศรษฐกิจยืนอยู่บนขา หรือเสาที่ไม่แข็งแรงเหมือนตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
“ อย่าเพิ่งกังวล เพราะมีทางออก โดยมองว่าระบบเศรษฐกิจต้องปรับเปลี่ยน และมีเงินทุนเข้ามาช่วย แต่ช่วงที่ผ่านมาไทยได้เปิดรับเทคโลยีที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาในไทย ด้วยการที่เปิดรับธุรกิจต่างประเทศแต่ไม่มีการกำกับดูแล และเข้ามาทำลายธุรกิจของคนไทย แต้มต่อต้องดูมูลค่าของสินค้า ดูการลงทุนว่าแบบไหนจะทำให้ไทยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้น ส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ต้องทบทวนนโยบายใหม่ ส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน เป็นประโยชน์กับคนไทยและธุรกิจไทย”
นายเอกนัฏ กล่าวต่อไปว่า เหล็ก เป็นแค่ตัวอย่างสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน แม้ที่ผ่านมาไทยพยายามออกมาตรฐานเหล็กหลายประเภท แต่ก็มีการหลบเลี่ยงโดยการนำเข้าเหล็กที่ไทยยังไม่มีเกณฑ์ควบคุมว่าได้มาตรฐานหรือไม่ โดยในปี2567 ไทยมีการนำเข้ามามากกว่า 6 แสนตัน ดังนั้นเหล็กจึงเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ตึกสตง.ถล่มตอนแผ่นดินไหว เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐาน”
อีกหนึ่งภารกิจคือจัดการกับอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของประเทศชาติ จัดการกลุ่มสีเทาและสีดำออกไป และต้อนรับธุรกิจสีขาว จึงจะทำให้ธุรกิจของไทยเติบโตได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีการแข่งขันไม่เป็นธรรม เพราะธุรกิจกลุ่มนี้พยายามลดราคาตีตลาด นำสินค้าด้อยคุณภาพมาลดราคา เช่น เหล็กไม่ได้คุณภาพมาอยู่ในตึกสูงหลายแห่ง เพื่อต้องการลดต้นทุน ลดคุณภาพ และเกิดการสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามในเรื่องปราบปรามอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญเพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ให้อุตสาหกรรมใหม่และธุรกิจในประเทศได้เติบโต รวมถึงดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศที่ดี สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญได้สร้างปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีเรื่องการจัดการของเสีย ซึ่งที่ผ่านมาได้ลักลอบนำของเสียออกมา เช่น ซินเคอหยวน นำเข้าฝุ่นแดง ฝุ่นดำ มากองไว้ให้เกิดมลพิษ
ดังนั้น จึงเตรียมออกกฎหมายมาเพิ่มเติม เช่น ร่างพ.ร.บ.จัดการกากอุตสาหกรรม ขณะนี้เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมตรี(ครม.) ก่อนจะเสนอเข้าสู่สภาฯ ซึ่งถือเป็นพ.ร.บ.จัดการกากอุตสาหกรรมฉบับแรกของไทย พร้อมกับสิ่งสำคัญคือเงินทุนจากกองทุนความยั่งยืนให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ส่งเสริมสร้างแต้มต่อ เข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานใด ช่วยให้SME และธุรกิจลดค่าไฟลง ดังนั้นเชื่อว่าในอีก 1-2 ปี จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้ธุรกิจไทยมีขีดความสามารถทางการแข่งขันบนเวทีโลก