xs
xsm
sm
md
lg

CAAT ดัน”โดรนขนส่ง”มิ.ย.นี้ทดลองเส้นทางข้ามเจ้าพระยา- เร่งแก้ไขข้อจำกัดการอนุญาตส่งเสริมทั้งระบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



CAAT ผลักดัน”โดรนขนส่ง”มิ.ย.68 เตรียมทดลองเส้นทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากอาคาร NT บางรัก เดินหน้าปรับปรุงระเบียบส่งเสริม เผยยอดจดทะเบียนโดรนสะสม 1.2 แสนลำ คาดยังผิดกฎหมายอีก 2 หมื่นลำ แนะเร่งดำเนินการในก.ย.นี้ ก่อนเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาต

พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท.เปิดเผยว่า CAAT เดินหน้าการส่งเสริมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) อย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับปรุงและพัฒนากฏหมาย แก้ไขข้อจำกัดการอนุญาตโดรน  ที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการขับเคลื่อนและใช้งานโดรน ขนาดใหญ่อย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ทั้งนี้ CAAT ได้ส่งเสริมการใช้โดรนอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรนและจดทะเบียนโดรน ผ่านระบบออนไลน์ที่รวดเร็ว ผ่านระบบ UAS Portal (uasportal.caat.or.th) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2567 ซึ่งช่วยแก้ปัญหาโดรนผิดกฎหมายได้ โดยมีโดรนที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากปีแรก 2558 ที่เริ่มจดทะเบียนโดรน มีหลัก100 ลำ ปี 2561 มีการจดทะเบียนจำนวน 3,966 ลำ ปี 2567 จดทะเบียน27,822 ลำ ปัจจุบันมีโดรนจดทะเบียนสะสมรวมกว่า 12,507 ลำ อย่างไรก็ตามยังพบว่ามีโดรนที่ยังไม่เข้าจดทะเบียนอีกประมาณ 20,000 ลำ ซึ่งมีทั้งโดรนทั่วไปและโดรนการเกษตร

ส่วนผู้บังคับหรือปล่อยโดรน ปัจจุบันขึ้นทะเบียนจำนวน 60,000 คน เฉพาะปี 2567 ขึ้นทะเบียนจำนวน 37,751 คน โดยใบบังคับโดรนมีอายุ 2 ปี อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นการจดทะเบียนโดรน CAAT จะไม่คิดค่าธรรมเนียม จดทะเบียนโดรนและผู้บังคับโดรน จนถึงเดือน ก.ย.2568

พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า ปัจจุบัน CAAT ได้จับมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อจัดทำแผนแม่บท หรือ Drone Master Plan ให้ออกมาเป็น Roadmap สำหรับประเทศไทยที่มีรายละเอียดทั้งด้านนโยบาย กฎหมาย การพัฒนาบุคลากร การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย ความมั่นคง และการป้องกันสิทธิส่วนบุคคล ครบทุกมิติ และในปี 2568 นี้ CAAT เริ่มทำการรับรองศูนย์ฝึกอบรมและหลักสูตรการฝึกอบรมผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ที่จะช่วยผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมโดรนให้มีความรู้ด้านการบิน กฎหมาย กฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบินโดรน และมีทักษะความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีโดรนอย่างปลอดภัย 


@มิ.ย.68 เตรียมทดลอง”โดรนขนส่ง”เส้นทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา

CAAT ผลักดัน การใช้ “โดรนขนส่ง” ในเขตเมือง ซึ่งได้หารือร่วมกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ,บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ,ศูนย์บริหารจัดการห้วงอากาศ (ประเทศไทย) กสทช.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนที่สนใจ เพื่อวางแผนพื้นที่และวิธีการทดสอบการใช้โดรนขนส่งในเขตกรุงเทพมหานคร คู่ขนานไปกับการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่เริ่มจัดทำร่าง พ.ร.บ. การใช้งานโดรน เพื่อการขนส่งและโลจิสติกส์แล้ว โดยในอนาคต CAAT จะพิจารณาในการออกใบอนุญาตการใช้โดรนขนส่งนี้ให้กับภาคเอกชนที่มีความพร้อมต่อไป

พลอากาศเอก มนัทกล่าวว่า ในต้นเดือนมิ.ย. 2568 จะมีการทดลองโดรนขนส่ง เส้นทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากสำนักงาน NT บางรักไปฝั่งตรงข้าม เพราะมีความเหมาะสม มีพื้นที่รองรับรวดเร็วกว่าถนนที่มีปัญหาจราจรติดขัด และอนาคตจะมีเส้นทางที่ไหนอีกบ้างจะขึ้นกับความต้องการหรือดีมานด์ซึ่งผู้ให้บริการโดรนขนส่ง จะเสนอขอมาและ CAAT จะพิจารณา ตรวจสอบพื้นที่เส้นทางที่เอกชนขอมาว่ามีผลกระทบอย่างไร และประกาศเส้นทางต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายในการใช้บริการก็จะขึ้นกับผู้ให้บริการและลูกค้า เป็นความพึงพอใจทั้ง2 ฝ่าย โดย CAAT อาจจะช่วยดูเรื่องเหมาะสมแต่หน้าที่ CAAT คือช่วยสนับสนุนให้เกิดขึ้น


“ประโยชน์ของโดรนส่งของคือความสะดวกรวดเร็วและความพอใจของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ แต่ความท้ายทายคือความปลอดภัยที่​CAAT ต้องเข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน จึงต้องมีการทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลและหาทางป้องกันแก้ไขไว้ก่อน สุดท้ายจะมีประกันบุคคลที่ 3 ด้วย ที่กำหนดไว้ในขั้นตอนขึ้นทะเบียนอยู่แล้ว”

โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 CAATได้ นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูระบบนิเวศนวัตกรรมโดรน (Ecosystems) ณ วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ UAV Regulatory Sandbox ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ทำการทดสอบ วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโดรน โดย CAAT ได้ร่วมมือและสนับสนุนวังจันทร์วัลเลย์ ด้านการอนุมัติ อนุญาต ทำการบิน หรือการทดสอบต่าง ๆ เกี่ยวกับโดรนให้มีความสะดวกรวดเร็ว สามารถนำผลการทดสอบ ทดลอง วิจัยและพัฒนาที่ได้มาต่อยอดในการสร้างนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับโดรน เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศต่อไป

รวมถึงมีผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศนำโดรนหรือระบบ ที่เกี่ยวข้องหลากหลายประเภทมาทดสอบที่ UAV Regulatory Sandbox วังจันทร์วัลเลย์เพิ่มมากขึ้น เช่น โดรนในทางวิศวกรรมเพื่อการสำรวจและการทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ โดรนเกษตร โดรนกู้ภัย และโดรนรักษาความปลอดภัย เป็นต้น


@ปรับปรุงระเบียบส่งเสริมอุตฯโดรน

นอกจากนี้ CAAT ยังมีแผนปรับปรุงพัฒนากฎระเบียบเพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดรนให้ก้าวไปข้างหน้า ได้แก่

1. การจัดทำกฎระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การอนุญาตโดรนประเภทความเสี่ยงปานกลาง (Specific Category) เพื่อให้ครอบคลุมการปฏิบัติการบินที่หลากหลายและเป็นระบบมากขึ้น

2. การปรับปรุงรูปแบบของกฎระเบียบในรูปแบบ TCARs เพื่อรองรับการแบ่งประเภทของการปฏิบัติการบินตามความเสี่ยง และมีรูปแบบของกฎระเบียบที่เป็นสากลมากขึ้น

3. กฎระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องการการปฏิบัติการบิน เช่น กฎระเบียบเกี่ยวกับการทำการบินนอกระยะสายตา (Beyond Visual Line of Sight : BVLOS) การปรับปรุงและใช้งานห้วงอากาศ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อยืนยันตัวตนและแสดงตำแหน่งสำหรับโดรน เป็นต้น

4. การปรับปรุง พ.ร.บ. การเดินอากาศฯ เพื่อให้กฎหมายแม่บท เหมาะสมกับการกำกับดูแลโดรน ในบริบทต่าง ๆ รวมถึงรองรับโดรนซึ่งกำลังถูกนำมาพัฒนาใช้ในการขนส่งมวลชนในอนาคตอันใกล้นี้

5. การออกคู่มือและแนวปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ขออนุญาตและผู้บังคับมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน เป็นรูปแบบเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ได้มีการสาธิตโดรนขนส่ง จากบริษัท เอวิลอน โรโบทิคส์ จำกัด ขนส่งยาและเวชภัณฑ์ โดยใช้โดรน Gryphon EX ในระยะทาง 2 กิโลเมตร ปฏิบัติการขนส่งจริงในพื้นที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม นำส่งยาจากโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัยไปยังสถานีสุขภาพในชุมชน โดยผู้ป่วยสามารถใช้บริการห้องผู้ป่วยนอกเสมือน (Virtual OPD) ที่สถานีสุขภาพ และได้รับยาและเวชภัณฑ์ผ่านทางโดรน ช่วยยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ในชุมชน ลดความแออัดในโรงพยาบาล และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ป่วย เข้าถึงพื้นที่ห่างไกล ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับสินค้ารวดเร็วขึ้น ช่วยลดต้นทุน ด้านน้ำมันและค่าบำรุงรักษา ลดปัญหาการจราจรติดขัดบนท้องถนน รวมถึงลดการปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อม เป็นต้น


CAAT คาดการณ์ว่าอนาคตอันใกล้นี้ ไทยจะมีโดรนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านลำ การกำกับดูแลการใช้โดรนจึงต้องขึ้นอยู่ประเภทความเสี่ยง ซึ่งตามมาตรฐานสากลจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. ความเสี่ยงต่ำ กลุ่มใช้เพื่อความบันเทิงทั่วไป เช่น โดรนถ่ายภาพและวิดีโอทางอากาศ 2. ความเสี่ยงปานกลาง กลุ่มธุรกิจ เช่น โดรนเกษตร โดรนสำรวจและตรวจสอบ และ 3. ความเสี่ยงสูง กลุ่มโดรนที่มีการขนส่งผู้โดยสาร หรือโดรนขนสินค้าขนาดใหญ่ ดังนั้นจะมีหน่วยงานอื่น ๆ ตามหน้าที่ความรับผิดชอบเข้ามากำกับดูแลด้วย จึงเป็นความท้าทายของ CAAT ในการพัฒนาระบบกำกับดูแล และกลไกต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดรนให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและการใช้โดรนที่ทันสมัย การกำหนดมาตรฐานบุคลากรในอุตสาหกรรม
โดรนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน การนำเทคโนโลยีระบบสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ในการกำกับดูแลเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการประสานและร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น