xs
xsm
sm
md
lg

เชฟโอลิเวียร์ เอลเซอร์ (OLIVIER ELZER) เจ้าของดาวมิชลินรวม 27 ดวง นำแรงบันดาลใจจากฝรั่งเศส-เมดิเตอร์เรเนียน สู่ห้องอาหาร Pink Pearl

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ห้องอาหารสุดหรูของ JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort & Spa เตรียมพาแขกผู้มาเยือนออกเดินทางสู่โลกแห่งรสชาติบนชายฝั่งริเวียร่าฝรั่งเศส ด้วยการรับประทานอาหารรูปแบบใหม่ที่เปี่ยมด้วยสีสันและชีวิตชีวา เสิร์ฟเมนูแบบsharing plates ที่คุ้มค่าเกินราคา พร้อมประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจในทุกมิติ


เชฟ Olivier มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ในโรงแรมระดับห้าดาวและห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งชั้นนำทั้งในยุโรปและเอเชีย
ฟูโกว๊ก ประเทศเวียดนาม (มีนาคม 2025) – JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort & Spa รีสอร์ตสุดหรูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาวิทยาลัยในตำนานแห่งฝรั่งเศส ท่ามกลางป่าฝนเขียวขจีและท้องทะเลสีฟ้าใสบน “เกาะไข่มุก” ของเวียดนาม ได้เปิดประสบการณ์อาหารฝรั่งเศส-เมดิเตอร์เรเนียน ด้วยการต้อนรับเชฟชื่อดังระดับโลก โอลิเวียร์ เอลเซอร์ (Olivier Elzer) ในฐานะที่ปรึกษาเชฟของห้องอาหาร Pink Pearl ห้องอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟริมทะเลของรีสอร์ต

เชฟ Olivier ถือเป็นหนึ่งในเชฟผู้มีพรสวรรค์มากที่สุดแห่งยุค โดยได้รับรางวัลดาวมิชลินรวมทั้งสิ้น 27 ดวง ตลอดเส้นทางอาชีพ เขาเคยร่วมงานกับสุดยอดตำนานวงการอาหารอย่าง ปิแอร์ กักแนร์ (Pierre Gagnaire) และ โจเอล โรบูชง (Joël Robuchon) และได้กลายเป็นปรมาจารย์แห่งศาสตร์การปรุงอาหารในแบบของตนเอง ผ่านประสบการณ์กว่า 30 ปีที่หลอมรวม ความเป็น“ตะวันออก” และ “ตะวันตก” ไว้อย่างลงตัว ฝีมือการทำอาหารของเขานำพาไปทั่วทั้งยุโรปและเอเชีย รวมถึงห้องอาหารชั้นนำในโรงแรมห้าดาว และจุดหมายด้านการรับประทานอาหารระดับไฮเอนด์ในเมืองใหญ่อย่างฮ่องกง ไทเป และมาเก๊า แม้จะมีโปรไฟล์ระดับโลก แต่แนวคิดด้านอาหารของ เชฟOlivier กลับเรียบง่ายและเข้าถึงได้ พร้อมเสิร์ฟอาหารคลาสสิกแบบฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว ผสานด้วยไวน์ชั้นเยี่ยม และลูกเล่นร่วมสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแต่ละภูมิภาค ในราคาที่คุ้มค่าและเปิดกว้างสำหรับทุกคน นอกจากบทบาทใน เชฟ Olivier ยังเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย เขาทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการด้านอาหารให้กับโรงแรมหรูระดับโลกหลายแห่ง ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านอาหารซึ่งให้บริการแก่แบรนด์ชั้นนำ และยังเป็นเจ้าของ ฟู้ดแล็บล้ำสมัย สำหรับการพัฒนาสูตรอาหารใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง 

Pink Pearl ผลงานการออกแบบโดย บิล เบนสลีย์ (Bill Bensley) ซึ่งจะพาแขกผู้มาเยือนออกเดินทางสู่ประสบการณ์อันเหนือระดับ ผ่านทุกสัมผัสในโลกอันหรูหราของ มาดามเพิร์ล คอลลินส์  (Madame Pearl Collins)
และในวันนี้ เชฟOlivier ได้นำประสบการณ์ระดับโลกและความเชี่ยวชาญที่ยากจะหาใครเทียบเท่า มาสู่ ห้องอาหาร Pink Pearl คฤหาสน์สีชมพูสุดคลาสสิกที่เลื่องลือในตำนานว่าเคยเป็นที่พำนักของ มาดามเพิร์ล คอลลินส์ (Madame Pearl Collins)สตรีผู้เป็นที่รู้จักในยุคแห่งความหรูหราสไตล์ Gatsby ห้องอาหารPink Pearl คือสถานที่ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์แห่งอดีต ผสานกลิ่นอายศิลปะและความสง่างามอย่างไร้กาลเวลา ห้องอาหารประกอบด้วยที่นั่งเพียง 36 ที่นั่งในห้องโถงหลัก ห้องรับรองส่วนตัว 5 ห้อง ห้องชิมไวน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ และสวนเขียวชอุ่มที่เปิดสู่ทิวทัศน์ของทะเลฟูโกว๊กอันงดงาม ทุกองค์ประกอบล้วนถูกออกแบบมาเพื่อมอบช่วงเวลาอันแสนพิเศษที่น่าจดจำ

ภายใต้การนำทีมของ เชฟolivier แขกผู้มาเยือน Pink Pearl จะได้ลิ้มรสเมนูใหม่ที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน โดยเน้นรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารฝรั่งเศสจากชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน ผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นและเทคนิคเฉพาะตัว ในแนวทางเดียวกับแนวคิดของ “มหาวิทยาลัยลามาร์ค (Lamarck University)” Pink Pearl จะเปรียบเสมือน “Department of French Cuisine” ประจำรีสอร์ต ถ่ายทอดความสง่างามของ Côte d’Azur สู่ชายฝั่งของฟูโกว๊ก ด้วยแนวคิดที่หรูหรา สดชื่น และร่วมสมัย คอนเซปต์ใหม่ของ Pink Pearl จะนำเสนอเมนูฝรั่งเศสแบบคลาสสิก ปรุงจากวัตถุดิบธรรมชาติและตามฤดูกาลจากชุมชนเกษตรกรและชาวประมงในท้องถิ่น ผสานกับวัตถุดิบนำเข้าชั้นเยี่ยมจากฝรั่งเศส โดยทั้งหมดจะถูกยกระดับด้วยสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียน 

เมนูเชฟโอลิเวียร์ หมึกยักษ์ย่าง เสิร์ฟพร้อมฮัมมัส ทับทิม และเครื่องเทศกลิ่นหอม
แนวคิดของเชฟ Olivier ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบผ่านจานซิกเนเจอร์ที่เน้นวัตถุดิบจากท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ปลาบอนิโต้ย่างถ่าน เสิร์ฟคู่กับสลัดเอ็นไดฟ์(endive salad), ชีสค็องเต้ (comté cheese) และซอสเวียร์จ (Vierge Sauce) ที่เต็มเปี่ยมด้วยรสชาติ ผสมผสานความสดใหม่ของอาหารทะเลเวียดนามเข้ากับองค์ประกอบแบบฝรั่งเศสได้อย่างกลมกล่อม และ Bohémienne เมนูคลาสสิกจากแคว้นโพรวองซ์ ที่นำมารังสรรค์ใหม่ด้วยเทคนิคอันประณีต โดยใช้มะเขือม่วง มะเขือเทศ และชีสพาร์เมซาน แขกผู้มาเยือน Pink Pearl ยังสามารถเพลิดเพลินกับเมนูอาหารแบบ “sharing plates” ซึ่งเหมาะสำหรับการสังสรรค์ และในทุกสุดสัปดาห์ ห้องอาหารยังจัด Sunday brunch สุดพิเศษที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นที่สุดของเกาะฟูโกว๊ก ทุกเมนูจะถูกจับคู่กับไวน์ชั้นเลิศที่คัดสรรโดย มาสเตอร์ซอมเมอลิเยร์ เบอร์ทรองด์ ลูโตด์ (Master Sommelier Bertrand Lutaud) ผู้มีประสบการณ์ทำงานในห้องอาหารดาวมิชลินมาแล้วหลายแห่งทั่วโลก และเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ประสบการณ์การจับคู่ไวน์กับอาหารอย่างไร้ที่ติ ด้วยไวน์จากไร่องุ่นชั้นนำของฝรั่งเศสและทั่วโลก

เชฟ Olivier กล่าวว่า “แนวทางการสร้างสรรค์อาหารรูปแบบใหม่ที่ Pink Pearl ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ในช่วงแรกของผมที่ริเวียร่าฝรั่งเศส ในเวลานั้น ผมได้ซึมซับวัฒนธรรม อัตลักษณ์ และรสชาติของภูมิภาคนั้นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งยังคงเป็นแรงบันดาลใจหลักตลอดเส้นทางอาชีพของผม” เชฟ Olivier กล่าวเสริมว่า“ผมเชื่อในการถ่ายทอดความงดงามของฤดูกาลผ่านวัตถุดิบสดใหม่และสูตรอาหารแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งให้เกียรติเทคนิคฝรั่งเศสที่เป็นรากฐานของศาสตร์การปรุงอาหาร วิธีการนี้ช่วยให้ผมสามารถสร้างสรรค์เมนูที่มีทั้งความแปลกใหม่และสะท้อนถึงมรดกอันลึกซึ้งของวัฒนธรรมเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างลงตัว”

จอห์น วูลลีย์ (John Wooley) ผู้จัดการของรีสอร์ต กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ เชฟOlivier ณ ห้องอาหาร Pink Pearl และตื่นเต้นที่จะได้แนะนำประสบการณ์อาหารฝรั่งเศส-เมดิเตอร์เรเนียนรูปแบบใหม่แก่แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และความหลงใหลในงานของ เชฟ Olivier นั้นน่าทึ่งอย่างแท้จริง โดยเฉพาะแนวทางการคิดนอกกรอบที่ยังคงยึดมั่นในรากฐานดั้งเดิม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของรีสอร์ตเรา ที่ผสมผสานความหรูหราอย่างมีรสนิยมเข้ากับจิตวิญญาณที่สนุกสนานได้อย่างลงตัว" ‘Department of French Cuisine’ ได้เปิดประตูต้อนรับอย่างเป็นทางการแล้ว และเราตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์รับประทานอาหารสุดพิเศษที่แขกของเราจะไม่มีวันลืม”

ห้องอาหาร Pink Pearl เป็นเพียงหนึ่งในหลากหลายประสบการณ์ด้านอาหารที่สร้างสรรค์ของ JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort & Spa สำหรับผู้ที่หลงใหลในรสชาติอาหาร ยังสามารถเลือกสัมผัสความประณีตในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ Tempus Fugit ห้องอาหารริมชายหาดที่ผสานความเรียบง่ายเข้ากับความหรูหราได้อย่างลงตัว ลิ้มลองอาหารละตินอเมริกันสไตล์ “Dock-to-Dish” พร้อมวิวทะเลที่ Red Rum หรือเปิดประสบการณ์แห่งวิทยาศาสตร์และศิลปะการผสมเครื่องดื่มสุดล้ำ ที่ห้อง Department of Chemistry

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort & Spa กรุณาคลิกที่นี่

เกี่ยวกับ JW Marriott :
JW Marriott เป็นหนึ่งในแบรนด์หรูในเครือ Marriott International โดยมีโรงแรมและรีสอร์ตที่สวยงามตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่นทั่วโลก แบรนด์ JW Marriott ได้รับการตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้ง Marriott International คือ J. Willard “J.W.” Marriott ผู้ซึ่งให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตนเองเพื่อที่จะสามารถดูแลผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น แนวคิดการใช้ชีวิตของเขาได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์ JW Marriott ซึ่งยึดหลักของการมีสุขภาวะที่ดีในทุกมิติ โรงแรมในเครือ JW Marriott จึงถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน เพื่อให้แขกผู้เข้าพักได้รู้สึกสมดุลทั้งทางกาย ใจ และจิตวิญญาณ ผ่านโปรแกรมและกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เข้าพักได้เชื่อมต่อกับตนเองและผู้อื่น พร้อมดื่มด่ำกับทุกช่วงเวลาอย่างเต็มที่ ปัจจุบันมีโรงแรม JW Marriott กว่า 125 แห่งใน 40 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก ซึ่งรองรับนักเดินทางที่มีวิถีชีวิตละเมียดละไม ใส่ใจรายละเอียด และแสวงหาประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมาย ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมทาง JW Marriott ได้ทางเว็บไซต์ รวมถึง Instagram และ Facebook.
JW Marriott ยังเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Marriott Bonvoy® โปรแกรมการเดินทางระดับโลกจาก Marriott International ที่มอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กับสมาชิก เช่น การเข้าพักฟรี ประสบการณ์พิเศษผ่าน Marriott Bonvoy Moments และสถานะ Elite ที่เป็นที่ยอมรับ ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ฟรีหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marriottbonvoy.com.

เกี่ยวกับ Marriott Bonvoy® :
Marriott Bonvoy® คือโปรแกรมการเดินทางระดับโลกที่นำเสนอพอร์ตโฟลิโอสุดพิเศษของแบรนด์โรงแรมมากกว่า 30 แบรนด์ ครอบคลุมจุดหมายปลายทางที่น่าจดจำที่สุดทั่วโลก โดยตอบโจทย์ทุกสไตล์การเดินทาง ตั้งแต่ความหรูหราระดับตำนานอย่าง The Ritz-Carlton และ St. Regis ไปจนถึงความทันสมัยของ W Hotels และแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ Marriott Bonvoy® เป็นโปรแกรมที่มอบตัวเลือกการเข้าพักระดับลักซ์ชัวรีมากกว่าทุกโปรแกรมการเดินทางอื่นๆ สมาชิกสามารถสะสมคะแนนจากการเข้าพักในโรงแรมและรีสอร์ต รวมถึงรีสอร์ตแบบรวมทุกอย่าง (All-Inclusive) และบ้านพักระดับพรีเมียม รวมไปถึงการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันผ่านบัตรเครดิตร่วม (Co-branded Credit Cards) คะแนนที่สะสมสามารถนำไปแลกประสบการณ์ต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพักในอนาคต กิจกรรมสุดพิเศษผ่าน Marriott Bonvoy Moments™ หรือแลกรับสินค้าสุดหรูจากพันธมิตรผ่าน Marriott Bonvoy Boutiques® สมัครสมาชิกฟรีหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Marriott Bonvoy® ได้ที่ marriottbonvoy.com

เกี่ยวกับ Marriott International :
Marriott International, Inc. (Nasdaq: MAR) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเบเทสดา รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา โดยมีพอร์ตโฟลิโอประกอบด้วยโรงแรมมากกว่า 9,300 แห่ง ภายใต้แบรนด์ชั้นนำกว่า 30 แบรนด์ ใน 144 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก Marriott ดำเนินการในรูปแบบของการบริหาร จัดตั้งแฟรนไชส์ และให้สิทธิ์การใช้แบรนด์ในธุรกิจโรงแรม ที่พักอาศัย ไทม์แชร์ และที่พักประเภทอื่น ๆ ทั่วโลก บริษัทได้นำเสนอแพลตฟอร์มการเดินทาง Marriott Bonvoy® ซึ่งได้รับรางวัลมากมายและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่ www.marriott.com และติดตามข่าวสารล่าสุดของบริษัทได้ที่ www.marriottnewscenter.com หรือติดตามได้ผ่าน Facebook และ @MarriottIntl บน X และ Instagram


กำลังโหลดความคิดเห็น