xs
xsm
sm
md
lg

J&T Express เผยผลงานความยั่งยืน ปี 2568

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก ได้เปิดเผยรายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ประจำปี 2024 อย่างเป็นทางการ รายงานฉบับนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการดำเนินงานและความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน เช่น โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม การเจริญเติบโตร่วมกันทางสังคม การเสริมสร้างธรรมาภิบาลขององค์กร และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

ในฐานะผู้นำโลจิสติกส์ระดับนานาชาติ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้ยกระดับแนวทางการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน ปี พ.ศ. 2567 ( ค.ศ. 2024 ) บริษัทได้แสดงออกถึงการพัฒนาอย่างชัดเจนในด้านการวางแผน การขนส่ง และการบรรจุภัณฑ์สีเขียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้ออกแบบและสร้างนิคมอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทานอัจฉริยะแห่งแรกในเมืองเป่าหยิง จังหวัดเจียงซู ประเทศจีน โดยติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาขนาด 74,000 ตารางเมตร เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์โดยรวมอยู่ที่ 1,089,760 กิโลวัตต์ชั่วโมง คาดการณ์ว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 7,880 ตันต่อปี ทำให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างยั่งยืนและสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนาโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในด้านการขนส่งสีเขียว เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้นำรูปแบบ “four-in-one” มาปรับใช้ ประกอบด้วย การจัดการการใช้เชื้อเพลิงตามเส้นทาง การฝึกอบรมพนักงานขับรถในด้านการรู้จักในการประหยัดพลังงาน และการปรับโครงสร้างการขนส่งและพลังงาน ซึ่งในเวียดนาม บริษัทได้ตั้งเป้าลดการใช้น้ำมัน 1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตรสำหรับรถทุกประเภท และในประเทศจีน บริษัทได้ จัดซื้อ/จัดหา รถพ่วงทำจากอะลูมิเนียมจำนวน 4,401 คัน ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่ารถพ่วงเหล็กทั่วไปถึง 1.5 ตัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในปีเดียวกัน ยังได้เพิ่มรถบรรทุกพลังงานสะอาด (LNG) อีก 1,327 คัน ทำให้สัดส่วนรถยนต์พลังงานสะอาดในจีนเพิ่มเป็น 26% ช่วยลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพัสดุที่ขนส่งด้วยรถของบริษัทได้เกือบ 4%

ด้านบรรจุภัณฑ์สีเขียว เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ดำเนินมาตรการต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่จุดรับสินค้า การคัดแยก การจัดส่ง ไปจนถึงการรีไซเคิล อาทิ ถุงขนส่งที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ ถุงกันน้ำที่ย่อยสลายได้ เทป 45 มม. ที่ย่อยสลายได้ และใบปะหน้าแบบแผ่นเดียว โดยเริ่มต้นจากตลาดในจีน และขยายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดใหม่ ๆ ในปี 2024 มีการนำถุงขนส่งที่ใช้ซ้ำได้มาใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 799,000 ใบ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 80.7% และมีการใช้งานสะสมรวมมากกว่า 27.62 ล้านครั้ง
เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานจึงเพิ่มการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2024 ได้จัดอบรมด้านความปลอดภัยรวม 57,464 ครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,089,974 คน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลายประเทศ อาทิ ในเวียดนาม บริษัทได้ช่วยเกษตรกรเก็บเกี่ยวพืชผลและแนะนำการใช้อีคอมเมิร์ซเพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้า การจัดส่งสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกว่า 300 ตัน ในประเทศบราซิล ส่วนในอินโดนีเซีย ได้จัดโครงการ “J&T Connect Preneur” สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) พร้อมมอบเงินสนับสนุนรวม 300 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย ให้กับ 10 ธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือก ด้านฟิลิปปินส์และประเทศไทย บริษัทได้ส่งเสริมการศึกษาโดยมอบสื่อการเรียนการสอนให้แก่โรงเรียนท้องถิ่น พร้อมจัดโครงการมอบทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มุ่งมั่นสร้างสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส ยุติธรรม และปลอดจากการทุจริต โดยในปี 2024 บริษัทได้จัดฝึกอบรมต่อต้านการทุจริตทั่วโลกถึง 94,146 ครั้ง รวมระยะเวลาการอบรม 31,355 ชั่วโมง

ด้านความปลอดภัยของข้อมูล บริษัทได้พัฒนาระบบการศึกษาแบบองค์รวมเพื่อเสริมสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยข้อมูลแก่พนักงาน รวมถึงการฝึกอบรมด้านการปกป้องข้อมูลและการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโปสเตอร์และกรณีศึกษา ในปี 2024 บริษัทยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 ในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย นอกเหนือจากที่ได้รับในจีน ซึ่งรวมถึง ISO 27701 และมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลระดับ 3 ของประเทศจีน ในการสร้างแนวป้องกันความปลอดภัยข้อมูลระดับโลกอย่างแข็งแกร่ง

ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ปริมาณพัสดุต่อวันทั่วโลกของ J&T Express ทะลุ 100 ล้านชิ้น สร้างสถิติใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ในปีเดียวกัน บริษัทเริ่มนำโดรนและยานยนต์ไร้คนขับมาใช้งาน พร้อมเดินหน้าพัฒนาโซลูชันโลจิสติกส์อัจฉริยะในหลากหลายรูปแบบ เพื่อยกระดับคุณภาพของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อย่างยั่งยืน บริษัทมุ่งมั่นขยายบทบาทในตลาดโลกผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
นายชาร์ลส์ โหว รองประธานกลุ่ม J&T Express กล่าวเสริมว่า: “การบริหารจัดการที่มีทั้งประสิทธิภาพและความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน J&T ให้ความสำคัญกับการลงมือทำจริงในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เราไม่เพียงแต่สร้างความก้าวหน้าในด้านโลจิสติกส์สีเขียว แต่ยังสนับสนุนสังคมและพัฒนาระบบธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง เราจะเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ ขยายเครือข่ายดิจิทัลด้านโลจิสติกส์ และดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของธุรกิจ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก”


กำลังโหลดความคิดเห็น