“นายกฯ”ตรวจศูนย์บริหารจราจร กรมทางหลวง กำชับดูแลอำนวยความสะดวกเต็มที่ ลดอุบัติเหตุบนถนน “สุริยะ”ย้ำทล.คุมเข้มถนนทุกเส้นทางตั้งจุดบริการประชาชน 423 แห่งทั่วประเทศ เริ่มวันแรกมอเตอร์เวย์ M6 รถใช้แล้วกว่า 2 หมื่นคัน
วันนี้ (11 เมษายน 2568) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมสภาพการจราจร และความพร้อมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ณ ศูนย์บริหารจัดการจราจร กรมทางหลวง (Highway Traffic Operation Center : HTOC) พร้อม กำชับให้ทุกฝ่ายและทุกภาคส่วน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างขับขี่ ซึ่งทุกหน่วยต้องคุมเข้มอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางกับประชาชน โดยตั้งเป้าปีนี้จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต้องลดลง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมที่จะดำเนินงานตามนโยบายที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) ดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้เส้นทางทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ทล.จะดำเนินการตามแผนการทำงานโดยใช้มาตรการ 4 มิติ ครอบคลุมทุกด้านของการเดินทาง เพื่อต้องการให้การบริหารจัดการจราจรให้มีความคล่องตัว ลดปัญหาติดขัด ได้แก่ 1. ด้านความพร้อม โดยให้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือประชาชน 2. ด้านความปลอดภัย โดยเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายจราจร ลดอุบัติเหตุ 3. ด้านความสะดวก โดยจัดจุดบริการประชาชนและให้ข้อมูลการเดินทาง และ 4. การรายงานเหตุ ซึ่งทุกฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์จราจรและอุบัติเหตุอย่างใกล้ชิดพร้อมบริการประชาชนทั่วไทย
@วันแรก รถใช้มอเตอร์เวย์ M6 แล้วกว่า 2 หมื่นคัน
นอกจากนี้ ยังเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการมอเตอร์เวย์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 ได้แก่ สายกรุงเทพฯ - ชลบุรี - พัทยา - มาบตาพุด สายบางปะอิน - บางพลี สายพระประแดง - บางขุนเทียน มอเตอร์เวย์ M6 ช่วงหินกอง - นครราชสีมา มอเตอร์เวย์ M81 (บางใหญ่ - กาญจนบุรี) นอกจากนั้นจะเปิดบริการวิ่งฟรีชั่วคราวบนมอเตอร์เวย์ M6 ช่วงหินกอง - ปากช่อง - นครราชสีมา ระยะทาง 164 กิโลเมตร เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังภาคอีสานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น สามารถร่นระยะเวลาในการเดินทางช่วงเทศกาลได้ถึง 2 - 3 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ เวลา 00.01 น. ไปจนถึงเที่ยงคืนวันที่ 17 เมษายน 2568
ทั้งนี้ สถิติผู้ใช้บริการ M6 ล่าสุดมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมมากกว่า 2 หมื่นคันแล้ว สามารถแบ่งเบาการจราจรบนถนนมิตรภาพ 40% เฉลี่ยระยะเวลาจากหินกองถึงปากช่อง 60 นาที และจากหินกองถึงนครราชสีมา 169 นาที
ทั้งนี้ขอให้ผู้ขับขี่โปรดใช้ความเร็วที่เหมาะสม โดยไม่เกิน 80 กม./ชม. เนื่องจากเส้นทางนี้ยังถือว่าอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่เปิดเป็นทางสาธารณะเต็มรูปแบบ ซึ่ง ทล. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจเส้นทางตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัย
ด้านนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า คาดว่าปริมาณการจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะเพิ่มขึ้น ประมาณ 2% จากปีก่อน โดยปริมาณการจราจรขาออกจากกรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก และมอเตอร์เวย์ จะมากสุดในวันที่ 12 เมษายน 2568 คาดอยู่ประมาณ 700,000 คันต่อวัน ส่วนขาเข้ากรุงเทพฯ จะมากสุดในวันที่ 16 เมษายน 2568 คาดอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน
ดังนั้น แนะนำให้ประชาชนวางแผนก่อนออกเดินทาง และหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อให้การสัญจรมีความคล่องตัว นอกจากนี้แนะนำว่าให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางใช้ความเร็วตามที่กำหนด และทำตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติที่เหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนน
@ตั้งจุดบริการประชาชน 423 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ทล. ได้ดำเนินการตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง และทุกการเดินทางทุกเส้นทางต้องมีความสะดวก ซึ่งขณะนี้ทุกจุดที่จะอำนวยความสะดวกต่อประชาชนมีความพร้อมแล้ว 100% ทั่วประเทศทุกเส้นทาง ได้แก่ 1. จุดบริการทั่วไทย โดยจัดตั้งจุดบริการประชาชน 423 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้บริการฟรี เช่น น้ำดื่ม ผ้าเย็น 2.เพิ่มกำลังหน่วยเคลื่อนที่เร็ว โดยได้เตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว 562 หน่วย พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมไปจนถึงติดตั้งป้ายทางเลี่ยง ซึ่งติดตั้งป้ายทางเลี่ยงแล้ว 799 ป้าย เพื่อแนะนำเส้นทางสำรอง และปิดจุดเสี่ยงบนท้องถนน จำนวน 417 จุด เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยการจัดเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยการออกข้อบังคับพนักงานจราจรเปิดช่องทางพิเศษ และการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเดินรถในถนนบางสาย เพื่อลดความหนาแน่นการจราจร รวมถึงได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจภูธรกว่า 722 นาย เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร อาทิ ควบคุมสัญญาณไฟทางแยก จัดระเบียบร้านค้าริมทาง ประจำจุดพื้นที่ที่เปิดช่องทางพิเศษ และจุดเข้า - ออก ปั๊มน้ำมัน เพื่อให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนได้อย่างคล่องตัวมากที่สุด
