xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะ”เปิดเงื่อนไขรถไฟฟ้า 20 บาททุกสายเริ่ม 30 ก.ย.68 ลงทะเบียนแอปฯทางรัฐ ควักอุดหนุนปีละ 8,000 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุริยะ”เปิดเงื่อนไข รถไฟฟ้า 20 บาท ใช้ได้ทุกสายเริ่ม 30 ก.ย.68 คนไทยลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐผูกบัตรรถไฟฟ้าที่มีหรือ EMV เพื่อเป็นเคลียร์ริ่งเฮ้าส์ ยังใช้บัตรใบเดียวแตะข้ามสายไม่ได้ เหตุบีทีเอสยังรับเฉพาะแรบบิท รัฐควักปีละ 8,000 ล้าน อุดกองทุนตั๋วร่วมจ่ายชดเชย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินนโยบาย ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายเชื่อมต่อได้ทุกเส้นทางว่า ตามเป้าหมายกระทรวงคมนาคม จะเริ่มดำเนินไดภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยยืนยันว่า คนไทยทุกคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าจะได้ใช้บริการโดยจ่ายสูงสุดไม่เกิน 20 บาท ซึ่งผู้โดยสารที่ใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อยืนยันตัวตน โดยกรอกตัวเลขข้อมูลบัตรที่จะใช้ชำระค่าโดยสาร เพื่อเชื่อมโยงกับระบบกลางสำหรับบริหารจัดการรายได้

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องให้ลงทะเบียนผ่านแอป”ทางรัฐ” เพื่อใช้เป็นเครื่องมือกลางในการเคลียร์รายได้ของรถไฟฟ้าแต่ละสาย ระหว่างผู้ประกอบการแต่ละราย กรณีมีการเดินทางข้ามสาย เนื่องจากจะทำให้รู้ว่าผู้โดยสารแต่ละคนเดินทางสายไหน จำนวนกี่สถานี ตลอดการเดินทางมีค่าโดยสารเท่าไร และนำมาคิดกรณีที่รัฐต้องชดเชย โดยผู้โดยสารจะจ่ายราคา 20 บาทเท่านั้น


นายสุริยะยืนยันว่า จะไม่ทำให้เกิดความยุ่งยากเพื่อให้การเชื่อมเดินทางข้ามสายจ่ายที่ 20 บาท โดยใช้แอป”ทางรัฐ”เป็นระบบเคลียร์รายได้ โดยจะเริ่มลงทะเบียนในเดือนส.ค. 2568 ปัจจุบันสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ Digital Government Development Agency (Public Organization) (DGA) กำลังพัฒนาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) และทดสอบการเชื่อมต่อข้อมูลกับผู้ให้บริการแก่ผู้รับบัตร (Acquirer) สำหรับบัตรโดยสาร EMV และ Rabbit ABT

“กรณีบัตรเดบิตให้ใช้เฉพาะ บัตรของธนาคารกรุงไทยเป็นหลัก ส่วนธนาคารอื่นไม่ร่วมเพราะเห็นว่าไม่คุ้ม ส่วนการออกบัตรเดบิต จะมีค่าใช้จ่าย 200 บาทนั้น อยากให้พิจารณาว่า จะเกิดประโยชน์จากการประหยัดค่าเดินทางเพราะจ่ายเพียง 20 บาท เปรียบเทียบกับเดิมที่ต้องจ่ายถึง 180 บาทกรณีเดินทางเต็มโครงข่ายรถไฟฟ้าทุกสาย เท่านี้ก็คุ้มกับค่าออกบัตร EMV แล้ว”

และในระยะที่ 2 (เฟส 2)คาดว่าภายใน 2569จะมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบสแกนชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20บาทตลอดสายผ่านช่องทาง QR Codeบนโทรศัพท์มือถือซึ่งจะทำให้ในอนาคตไม่จำเป็นต้องใช้บัตรโดยสารอีกต่อไป


@ ควักกำไรสะสมรฟม.ปีละ 8,000 ล้าน อุดกองทุนตั๋วร่วมจ่ายชดเชยผู้ประกอบการ

นายสุริยะกล่าวว่า ประเมินว่ารัฐจะต้องชดเชยรายได้ให้เอกชนผู้ประกอบการปีละประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งปัจจุบันมีกำไรสะสมอยู่ประมาณ 16,000 ล้านบาท โดยมี พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ เป็นเครื่องมือในการชดเชย โดยจะมีการจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วมขึ้นมา ซึ่งนอกจากกำไรสะสมของรฟม. แล้ว รัฐจะจัดสรรงบประมาณให้เป็นทุนประเดิมกองทุนตั๋วร่วมอีกส่วนหนึ่งด้วย

@เก็บ 20 บาท รฟม.ต้องเจรจาแก้สัญญาสัมปทานด้วย

โดยรฟม.จะต้องมีการแก้ไขพ.ร.บ.รฟม. เพื่อให้สามารถนำเงินสะสมของรฟม.มาใช้จ่ายในกองทุนตั๋วร่วมได้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.2568 นอกจากนี้รฟม.ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับเอกชนผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเหลืองและสีชมพู เพื่อแก้ไขสัญญากรณีที่จะจัดเก็บค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท และรัฐชดเชยส่วนต่างรายได้

และในระยะต่อไป รัฐบาลมีแนวทางในการซื้อคืนสัมปทานจากผู้ประกอบการรถไฟฟ้า โดยคาดว่าจะดำเนินการเรื่องซื้อคืนได้ภายใน 2 ปี


@ ก.ย.68 ยังใช้บัตรข้ามสายไม่ได้ แต่ขยาย EMV ใช้ 6 สาย ยกเว้น สีเขียวและสีทอง

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า ปัจจุบัน บัตรที่ใช้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะใช้ผ่านบัตร 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ 1. บัตรแรบบิท ใช้กับรถไฟฟ้า 4 สาย คือ สีเขียว สีทอง สีชมพู สีเหลือง 2. บัตร MRT Plus ใช้กับรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สีน้ำเงิน สีม่วง 3. บัตร Europay Mastercard and Visa (EMV) Contactless Card ใช้กับรถไฟฟ้า 6 สาย ได้แก่ สีแดง, สีน้ำเงิน, สีม่วง, สีชมพู, สีเหลือง ส่วนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ( ARL) รับเฉพาะบัตร ARL

ซึ่งการได้บัตร EMV หรือ บัตรแรบบิท มานั้น ต้องลงทะเบียนยืนยันด้วยหมายเลขบัตรประชาชนมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ยุ่งยาก เพียงแค่นำตัวเลขที่อยู่บนบัตรเหล่านั้นมาลงทะเบียนบนแอป”ทางรัฐ”ก็สามารถใช้รถไฟฟ้า 20 บาทได้แล้ว


โดยตั้งแต่ วันที่ 30 ก.ย. 2568 ซึ่งเป็นปีแรกสำหรับรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง เมื่อลงทะเบียนผ่านแอป”ทางรัฐ”แล้ว การใช้บัตรของแต่ละสาย ยังคงใช้บัตรเดิม ยังไม่สามารถใช้บัตรข้ามสายกันได้ แต่ค่าโดยสารตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางที่มีการเดินทางข้ามสายจะสูงสุดไม่เกิน 20 บาท โดยมีแอป”ทางรัฐ”เป็น เคลียร์ริ่งเฮ้าส์

และ ภายในปลายปี 2569 จะพัฒนาให้สามารถ จ่ายค่าโดยสารได้ด้วย QR Code แตะจ่ายคิวอาร์โค้ดผ่านโทรศัพท์มือถือได้ โดยไม่ต้องถือบัตร เพื่อเพิ่มความสะดวก อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้า 20 บาท จะไม่ครอบคลุมนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยังคงต้องจ่ายค่าโดยสารตามอัตราที่ระบุตามสัญญาสัมปทาน


กำลังโหลดความคิดเห็น