xs
xsm
sm
md
lg

PTTGC ชี้ขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ กระทบน้อย แผนซื้อหุ้นคืนศึกษาอยู่ แจงหุ้นร่วงตามอุตฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



PTTGC ชี้ได้รับผลกระทบโดยตรงเล็กน้อยจากนโยบายขึ้นภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐฯ เหตุส่งออกเม็ดพลาสติกไปสหรัฐฯ น้อยกว่า 1% แต่ห่วงผลกระทบทางอ้อมต่อ ศก.โลก ส่วนการซื้อหุ้นคืนอยู่ระหว่างศึกษา ยังไม่มีความชัดเจนต้องพิจารณาความจำเป็นต้องใช้เงินประกอบการตัดสินใจ

นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น PTTGC ปี 2568 ว่า นโยบายสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) ที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สหรัฐฯ เสียดุลการค้าสูง ซึ่งไทยโดนเก็บภาษี 36% นั้น ขณะนี้บริษัทเฝ้าติดตามนโยบายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบโดยตรงไม่มาก เพราะมีการขายเม็ดพลาสติกไปสหรัฐฯ น้อยกว่า 1% แต่นโยบายดังกล่าวมีผลกระทบทางอ้อมต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก ทำให้เศรษฐกิจแต่ละประเทศผันผวนได้

อย่างไรก็ดี นโยบายการขึ้นภาษีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อแผนการเสริมความมั่นคงด้านวัตถุดิบและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนในระยะยาวของ PTTGC ในโครงการนำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯจำนวน 4 แสนตันต่อปีเพื่อมาใช้ในโรงงานโอเลฟินส์ในไทยเริ่มภายในปี 2572 เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่มีผลต่อการส่งออกแต่อย่างใด

นอกจากนี้ โรงงานโอเลฟินส์ PTTGC ทั้ง 5 โรงในไทย มีการใช้วัตถุดิบที่หลากหลายทั้งก๊าซธรรมชาติ อีเทน แนฟทา ฯลฯ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีราคาต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำกว่าคู่แข่ง ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งเสริมให้มีการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P)ภายในประเทศนั้น ปัจจุบันบริษัทมีการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ อยู่แล้ว และสามารถนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มได้อีก แต่ต้องดูความคุ้มค่าด้วย


แนวโน้มการดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีในปีนี้ยังอยู่ในภาวะท้าทายต่อเนื่องจากปีก่อนมาจากกำลังการผลิตที่ล้นตลาดทำให้ราคาส่วนต่างราคาเม็ดพลาสติกและวัตถุดิบ(สเปรด)ต่ำมาก จนทำให้บริษัทปิโตรเคมีหลายรายในโลกต้องลดกำลังการผลิตลงหรือหยุดผลิตไป

ดังนั้นในปี 2568 บริษัทมีแผนการลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพิ่มสภาพคล่อง เพื่อให้บริษัทกลับมามีกำไรสุทธิโดยเร็วที่สุดจากปีก่อนขาดทุนสุทธิเกือบ 2.98 หมื่นล้านบาท

บริษัทวางเป้าลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ใน 1-2 ปีนี้ราว 4,500 ล้านบาทต่อปี มาจากการปรับลดค่าใช้จ่าย การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน จากการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการสร้างรายได้ เสริมสภาพคล่องจากการขายสินทรัพย์ในกลุ่ม PTTGC ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Core Business) ผลักดัน EBITDA เพิ่มขึ้นอีก 300 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2573

นายณะรงค์ศักดิ์กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาซื้อหุ้นคืน ซึ่งเดิมเคยศึกษามาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้เข้าใจขั้นตอนต่างๆ แต่การตัดสินใจซื้อหุ้นคืนนั้นต้องพิจารณารอบคอบเพราะบริษัทมีความจำเป็นในการใช้เงินทุนในการขยายงานด้วย หากมีความคืบหน้าจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อน

ส่วนราคาหุ้น PTTGC ที่อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 14.70 บาทต่อหุ้น เป็นการสะท้อนธุรกิจปิโตรเคมีที่ตกต่ำเหมือนกับหลายบริษัทในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน ซึ่งเป็นความท้าทายในช่วง 2-3 ปี โดยบริษัทยังคงเน้นรักษาสภาพคล่อง ลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2567 อัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เมษายน 2568


กำลังโหลดความคิดเห็น