กทพ.ขยายเวลาอีก 20 วันสอบข้อเท็จจริจสาเหตุคานทางด่วน "พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก" ทรุดตัว "ผู้ว่าฯ กทพ." เผยอยู่ในขั้นตอนสอบพยาน ยันสรุปในเดือน เม.ย.นี้รู้สาเหตุเพื่อวางแผนก่อสร้างต่อได้อย่างปลอดภัย
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุกรณีคานงานก่อสร้างของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ สัญญา 3 ทรุดตัว ว่า เดิมคาดว่าจะสรุปผลตรวจสอบฯ ได้ภายใน 20 วันหลังมีการรื้อย้ายซากคานออกจากพื้นที่ ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 8 เม.ย. 2568 นี้ แต่จากการสอบถามประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ พบว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบพยานที่จะต้องดำเนินการให้ครบถ้วน รอบคอบ ทำให้ต้องมีการขยายเวลาการตรวจสอบออกไปอีก 20 วัน ซึ่งคาดว่าภายในเดือน เม.ย. 2568 โดยเชื่อว่าจะไม่มีการเลื่อนอีกแล้ว และจะทำให้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คานที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทรุดตัวลงมา เพื่อจะทำให้สามารถก่อสร้างสัญญา 3 ต่อไปได้อย่างมั่นใจ
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ กทพ.ได้สั่งให้ผู้รับจ้างหยุดงานเป็นเวลา 14 วัน อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ข้อสรุปจะพยายามเร่งรัดให้งานแล้วเสร็จตามเป้าหมายภายในปลายปี 2568
เนื่องจากสัญญา 3 เป็นงานที่ยาก เพราะเป็นทางด่วนชั้นที่ 2 หรือ Double Deck ที่ยาวที่สุด และมีเวลาทำงานจำกัด คือทำได้เฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น ซึ่งเดิมวางแผนการทำงานไว้ที่ 8 ชม./วัน แต่เข้าพื้นที่จริง เหลือเวลาทำงานเพียง 4-5 ชม./วันเท่านั้น เพราะจะต้องเร่งเปิดใช้ทางด่วนในช่วงเวลา 05.00 น.ของทุกวัน อีกทั้งต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยอย่างสูงสุด ดังนั้น อาจจะทำให้งานของสัญญา 3 เสร็จล่าช้าไปบ้าง แต่เชื่อว่าจะประมาณ 1-2 เดือน เพราะขณะนี้ยังมีคำสั่งให้ผู้รับเหมาหยุดการก่อสร้างอยู่
อย่างไรก็ตาม งานสัญญา 3 ใช้คนทำงานเกือบ 1,000 คน ทำงานมาเกือบ 3 ปีคำนวณเป็นชั่วโมงการทำงานได้ 7.8 ล้านชั่วโมงทำงานถึงเกิดเหตุ (จำนวนคนต่อระยะเวลาการทำงาน) ถือว่ามาตรฐานทางการก่อสร้างสูง ส่วนการเกิดอุบัติเหตุ ขอให้รอผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นทางการ
โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 งานก่อสร้าง ณ เดือน มี.ค. 2568 มีความก้าวหน้า 85.44% ล่าช้ากว่าแผน 0.49% (แผนงาน 85.93%) มี กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บจ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง) เป็นผู้รับจ้าง วงเงิน 7,359.30 ล้านบาท
