ผู้จัดการรายวัน 360 - ยัสปาล กรุ๊ป หรือ บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์แห่งภูมิภาคอาเซียน เดินหน้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบโลจิสติกส์มาใช้พลังงานสะอาด โดยเริ่มใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) สำหรับการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ พร้อมขยายผลสู่การลดของเสีย (Waste Reduction) ในกระบวนการดำเนินงาน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
นายจรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยัสปาล กรุ๊ป หรือ บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยัสปาล กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจแฟชั่นควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เราให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดในโลจิสติกส์ พร้อมทั้งลดของเสียในทุกขั้นตอน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิด The Power of Sustainability ที่ ยัสปาล กรุ๊ป ยึดมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
“เราเชื่อว่าการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นไลฟ์สไตล์ไม่ใช่แค่เรื่องของเทรนด์และสไตล์ แต่คือการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ทั้งกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การขนส่งที่ลดการปล่อยมลพิษ และการบริโภคที่มีความรับผิดชอบ โดย ยัสปาล กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแนวทางเหล่านี้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน การลงทุนในระบบโลจิสติกส์พลังงานสะอาด ไปจนถึงการร่วมมือกับผู้บริโภคผ่านการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล ซึ่งแนวทางเหล่านี้คือ ก้าวสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่ NET Zero ภายในปี 2065”
โดยร่วมมือกับบริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด ยัสปาล กรุ๊ป ได้เริ่มต้นใช้รถบรรทุกไฟฟ้า 4 ล้อสำหรับการขนส่งจากศูนย์กระจายสินค้าไปยังสาขาในศูนย์การค้าภายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยในปี 2567 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 2% และในปี 2568 นี้ได้เพิ่มจำนวนรถเป็น 6 คัน เพื่อรองรับการขนส่งไปยังสาขาต่างจังหวัดอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยมลพิษแล้ว ยัสปาล กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการลดของเสียในกระบวนการดำเนินงาน โดยมีการหมุนเวียนกล่องกระดาษที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างศูนย์กระจายสินค้าและสาขา เพื่อยืดอายุการใช้งานของวัสดุบรรจุภัณฑ์ และลดปริมาณขยะประเภทใช้ครั้งเดียว (Single-use Waste) ลงอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังส่งเสริมการใช้ถุงกระดาษที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิลในแคมเปญพิเศษ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ยัสปาล กรุ๊ป มีแบรนด์ที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ (In-House Brand) ได้แก่ JASPAL, CPS CHAPS, LYN, CC DOUBLE O, lyn around, Jelly Bunny, MISTY MYNX, ROYAL IVY REGATTA, QUINN, shoebar และ CPS COFFEE รวมทั้งยังเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและหลายประเทศในอาเซียน ให้กับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกมากมาย (Import Brand) ได้แก่ asics, FRED PERRY, melissa, DIESEL, PUMA, MARITHÉ + FRANCOIS GIRBAUD, NEWERA, Champion, MANGO, CAMPER, marimekko และ Ipanema โดยปัจจุบันมีช่องทางสาขาและจุดจำหน่ายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมมากกว่า 500 สาขา ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างๆ
สำหรับบริษัท เช้งเก้อร์ (ไทย) จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 50 ปี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2517 ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 1,000 คน ประจำสำนักงานและคลังสินค้ารวม 6 แห่งทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี เชียงใหม่ และหาดใหญ่