“สุริยะ” หารือเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย สานต่อความร่วมมือ Logistic ทางน้ำ ไทย-เดนมาร์ก เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจ พัฒนาแอ่งจอดเรือ B "แหลมฉบัง" เพิ่มศักยภาพรับเรือสินค้า พ.ย.นี้เปิดประมูลร่วมทุนผู้ประกอบการรายใหม่ท่าเทียบเรือ B1 และ B2
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ได้หารือร่วมกับนายแดนนี แอนนัน (H.E. Mr. Danny Annan) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย เกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำและระบบโลจิสติกส์ระหว่างกัน
นายสุริยะกล่าวว่า ประเทศเดนมาร์กมีความโดดเด่นด้านการขนส่งทางทะเล โดยมีบริษัทเมิรสก์ (Maersk) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีบทบาทสำคัญในการช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยนวัตกรรม ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความยินดีที่จะต้อนรับบริษัทต่างชาติของเดนมาร์กเข้ามาร่วมลงทุน ทั้งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหรือการเป็นผู้ประกอบการท่าเทียบเรือภายในท่าเรือแหลมฉบัง ผ่านการร่วมทุนกับภาครัฐ
ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) อยู่ระหว่างดำเนินโครงการรวมแอ่งจอดเรือ B ให้สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เข้าจอดเทียบท่าในปริมาณมากและมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยระหว่างการปิดปรับปรุงท่าเทียบเรือ B1 และ B2 ผู้ประกอบการจะยังสามารถใช้บริการที่ท่าเทียบเรือ B3, B4 และ B5 ได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) วางแผนบริหารจัดการท่าเรือให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้อย่างต่อเนื่องและไม่ให้เกิดการหยุดชะงัก
สำหรับการประมูลสัมปทานท่าเทียบเรือ B1 และ B2 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) หลังจากที่หลักการร่วมทุนฯ ได้รับการอนุมัติแล้ว กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง กทท. จะเริ่มเปิดเชิญชวนบริษัทเอกชนเข้าร่วมกระบวนการประมูลภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการรายใหม่ในโครงการควบรวมท่าเทียบเรือ B1 และ B2 ได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2569
