xs
xsm
sm
md
lg

GULFอัดงบลงทุน5ปี1แสนล้าน ลุยธุรกิจพลังงานสะอาด-ดิจิทัลดาต้าเซ็นเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • วางแผนลงทุน 5 ปี 1 แสนล้านบาท
  • • เน้นลงทุนพลังงานสะอาด 60-70%
  • • ปีนี้จะนำเข้า LNG 4-5 ล้านตัน เพื่อป้อนโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ในไทย


กัลฟ์ฯควบรวมกิจการ “อินทัช โฮลดิ้งส์”เปลี่ยนชื่อเป็นชื่อบริษัทใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์” ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ กางแผนลงทุน 5ปีนี้ราว 1 แสนล้านบาท เน้นลงทุนพลังงานสะอาดราว 60-70% แย้มปีนี้นำเข้าLNG 4-5ล้านตันป้อนโรงไฟฟ้าIPPและSPPในเครือ จ่อเซ็นสัญญานำเข้าLNG ระยะยาว 10ปีราว2-3ล้านตันในปีนี้ ลั่นปี68 GULFโต20-25%

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ GULFI เปิดเผยว่า บริษัทฯดำเนินการควบรวมกิจการกับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทใหม่อย่างเป็นทางการ คือ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ GULF ในวันที่ 1 เม.ย. 2568 และจะเริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 3 เม.ย.นี้

สำหรับงบลงทุน 5 ปีนี้ของบริษัทใหม่หรือGULF ตั้งไว้ประมาณ 100,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนในปีนี้ราว 20,000 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการใหม่ที่ยังไม่สามารถระบุได้ ) ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่เน้นธุรกิจพลังงานสะอาดคิดเป็นสัดส่วน 60-70% โดยในช่วงระหว่างการควบรวมกิจการ บริษัทจะไม่ลงทุนมาก เพราะอาจมีผลทำให้ราคาหุ้น GULF และ INTUCH ไม่สมดุลกัน

แต่หลังจากวันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป บริษัทจะเร่งลงทุนเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจโรงไฟฟ้า จะเน้นลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนมาชวนลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่วนในประเทศไทยจะเป็นการลงทุนในธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ เฟสที่ 2และ 3 หลังจากโครงการดาต้า เซ็นเตอร์เฟส 1 กำลังผลิต 25 เมกะวัตต์มีลูกค้าครบแล้ว คาดว่าแล้วเสร็จในเดือนพ.ค.นี้ พร้อมทั้งคาดหวังว่าดาต้าเซ็นเตอร์จะอยู่ที่ระดับ 200 เมกะวัตต์ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทได้รับการส่งเสริมบีโอไอ ในโครงการดาต้า เซ็นเตอร์ เฟส2อีก 50เมกะวัตต์ในนามบริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซนเตอร์ 02 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม Gulf, Singapore Telecommunications และ AIS เงินลงทุน 13,480 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี

นายสารัชถ์ กล่าวว่าในปีนี้ บริษัทมีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ประมาณ 4-5 ล้านตันเพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าหินกอง และโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ในเครือบริษัทฯ โดยราคานำเข้าLNG ค่อนข้างต่ำ ขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจาทำสัญญานำเข้า LNG ระยะยาว 10ปีราวปีละ 2-3ล้านตันภายในปีนี้

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น1,500เมกะวัตต์ จะมาจากโครงการหินกอง (HKP) หน่วยผลิตที่ 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ ที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์( COD )ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 5 โครงการ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน 2 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งรวม 597 เมกะวัตต์ ที่มีแผนจะ COD ในช่วงเดือน พ.ย.- ธ.ค.2568 ,โครงการโซลาร์รูฟท็อป ภายใต้ GULF1 เพิ่มอีก110 เมกะวัตต์ในปีนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจาก 15,100 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 16,577 เมกะวัตต์ในปีนี้

รวมทั้งรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์ผสมกับแบตเตอรี่ในประเทศอีกจำนวน 5 โครงการที่ COD ไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 และปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จะรับรู้กำไรเต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้กลุ่ม IPD กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 เมกะวัตต์

ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR ) พลังงานไฮโดรเจน และโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) นั้น บริษัทไม่สนใจที่จะลงทุน เช่นเดียวกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เช่น โครงการท่าเรือ , โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอร์เตอร์เวย์) ที่จะไม่ลงทุนเพิ่มเติม แต่เน้นลงทุนดาต้า เซ็นเตอร์และดิจิทัล ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า


นายสารัชถ์ กล่าวย้ำว่า ประโยชน์จากการควบรวมกับINTUCHในครั้งนี้จะทำให้บริษัทใหม่มีฐานะการเงินที่แข็งแรงขึ้น เนื่องจากบริษัทใหม่จะถือหุ้นโดยตรงใน AIS สัดส่วน 40% ซึ่งสามารถที่จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาได้ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาทต่อปี กระแสเงินสดและเงินปันผลมากขึ้นกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 0.8 เท่า จากเดิมไม่เกิน 1.8 เท่า และอันดับเครดิตเรทติ้งจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง จากเดิมที่มีต้นทุนเงินกู้ที่ระดับ 3%

ภายหลังการควบรวมกิจการจะทำให้บริษัทใหม่มี 4 กลุ่มธุรกิจหลัก 1.พลังงาน, 2.โครงสร้างพื้นฐาน, 3.ดิจิทัล และ4.ธุรกิจการลงทุนอื่นๆ เช่น การลงทุนใน ADVANC และ THCOM โดยบริษัทใหม่มีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจพลังงานราว 60% ที่เหลืออีก40%มาจากธุรกิจอื่น

ส่วนการลงทุนในการซื้อหุ้น KBANK นั้น มองว่าหากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากๆก็คงขาย ซึ่งเป็นการซื้อเพื่อการลงทุน โดยมีโอกาสการลงทุนได้หมดทั้งซื้อหรือขายเพราะขึ้นอยู่ที่ราคา อย่างไรก็ตามหากราคาหุ้น KBANK ตกมาที่ 90 บาท ก็คงซื้อหุ้นเพิ่มอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น