- • ยอดขายในประเทศลดลง 6.68% เหลือ 49,313 คัน
- • ยอดส่งออกลดลง 8.34%
- • คาดหวังโครงการ "รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ" ช่วยกระตุ้นยอดขายรถกระบะ
- • ยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เพิ่มขึ้น
ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 115,487 คัน ลดลง 13.62% มาจากยอดขายรถยนต์ในประเทศหดตัว 6.68% เหลือ 49,313 คัน ส่วนส่งออกลดลง 8.34% ลุ้นโครงการ “รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ” กระตุ้นยอดขายรถกระบะ ส่วนยอดผลิตรถยนต์ BEV พุ่ง 7,574 คัน เพิ่มขึ้น 60.09%
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 115,487 คัน ลดลง 13.62% เนื่องจากผลิตขายในประเทศลดลง 21.26% ส่งผลให้ 2 เดือน (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2568) มีจำนวนการผลิตทั้งสิ้น 222,590 คัน ลดลง 19.29%
ส่วนการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผลิตได้ 78,535 คัน ลดลง 9.48% โดยช่วง 2 เดือนแรกปีนี้จึงผลิตเพื่อส่งออกได้เพียง 153,579 คัน ลดลง 15.56% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งลดลงถึง 47.01% ตามยอดส่งออกที่ลดลง
ขณะที่การผลิตเพื่อขายในประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผลิตได้ 36,952 คัน เท่ากับ 32% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 21.26% ส่งผลให้ตัวเลข 2 เดือนแรกปีนี้ผลิตได้แต่ 69,011 คัน หรือเท่ากับ 31% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 26.52% เป็นผลมาจากความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ทำให้ยอดขายรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเดือนกุมภาพันธ์มียอดการผลิตเพื่อขายในประเทศเพียง 10,993 คัน ลดลงถึง 42.1% และตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ผลิตได้เพียง 20,507 คัน หรือเท่ากับ 13.99% ของยอดการผลิตรถกระบะ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วจึงลดลงถึง 46.39% ทั้งตัวรถกระบะบรรทุก รถกระบะดับเบิลแค็บ รถกระบะ PPV ดังนั้นตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 รถยนต์จึงมียอดขาย 97,395 คัน ลดลง 9.53%
ในส่วนของยอดขายรถยนต์ในประเทศของเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,313 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2568 ที่ 1.2% แต่ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ 6.68% จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินกับผู้ซื้อรถกระบะที่ยังคงลดลง 14.9% คงต้องรอยอดจองรถยนต์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่เริ่มวันที่ 26 มีนาคม-วันที่ 6 เมษายน 2568 ที่สถาบันการเงินอาจปล่อยสินเชื่อรถกระบะมากขึ้น
ซึ่งมาตรการจากภาครัฐที่จะช่วยเหลือรถกระบะในโครงการ “รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ” โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อซื้อรถกระบะ ซึ่งเป็นรถประกอบธุรกิจของประชาชนและเกษตรกร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้วงเงิน 5,000 ล้านบาทนั้น จะเริ่มรับคำขอตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568-31 ธันวาคม 2568 เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์ คาดว่าจะเห็นผลภายใน 2 เดือน
ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ส่งออกได้ 81,323 คัน เพิ่มขึ้น 30.49% แต่ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ 8.34% เพราะจะมีการเปลี่ยนรุ่นรถของรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงชะลอการผลิต ทำให้ส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ทั้งนี้ คงต้องติดตามการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์ของสหรัฐฯในวันที่ 2 เมษายน 2568 จะมีประเทศใดบ้าง ทำให้บางประเทศคู่ค้าลดคำสั่งซื้อเพื่อรอความชัดเจนในนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา และบางประเทศคู่ค้ามีรถยนต์อีวีเข้ามามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น ฯลฯ ทำให้เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจึงอยู่ที่ 143,644 คัน ลดลง 18.12%
ส่วนยอดยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกุมภาพันธ์ 2568 มียอดจดทะเบียนใหม่จำนวน 7,375 คัน เพิ่มขึ้น 16.42% และเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 22,086 คัน ลดลงเพียง 0.86%