xs
xsm
sm
md
lg

CPF คว้ารางวัลสูงสุดระดับ Gold ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรายงานความยั่งยืนด้านสิทธิมนุษยชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • รางวัลดังกล่าวอยู่ในด้านสิทธิมนุษยชน
  • • สะท้อนความสำเร็จของซีพีเอฟในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สร้างความภาคภูมิใจอีกครั้งด้วยการคว้ารางวัล “รายงานความยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับภูมิภาคเอเชีย” ประจำปี 2567 (Asia Sustainability Reporting Awards (ASRA) 2024) ในด้านสิทธิมนุษยชน ระดับ Gold ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุด จากผู้เข้าร่วมกว่า 13 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย ด้วยการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานระดับสากล มีการเปิดเผยข้อมูลอย่าง โปร่งใส ชัดเจน และครอบคลุม ตั้งแต่เป้าหมาย นโยบาย ไปจนถึงผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม สะท้อนความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยหลักสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง

นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟได้รับรางวัลระดับ Gold ถือเป็นรางวัลอันดับหนึ่งของ “รายงานความยั่งยืนยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชีย” ด้านสิทธิมนุษยชน โดยบริษัทฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และเป็นองค์กรเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลสูงสุดระดับ Gold ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเปิดเผยข้อมูลด้านสิทธิมนุษยชนอย่างครบถ้วน โปร่งใส ซึ่งเป็นการรายงานให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมตั้งแต่การกำหนดนโยบาย ดำเนินงานป้องกันความเสี่ยงและบรรเทาผลกระทบ โดยมุ่งสร้างระบบนิเวศองค์กรที่เปิดกว้าง วัฒนธรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และสภาพแวดล้อมการทำงานที่เคารพในความแตกต่างของบุคลากรทุกระดับ ปราศจากการเลือกปฏิบัติ โดยบริษัทจะรักษามาตรฐานพร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการบริหารจัดการด้วยความเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างยั่งยืน

ในฐานะที่ ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจการเกษตรและอาหารแบบครบวงจรใน 17 ประเทศ และส่งออกสินค้าอาหารไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการยอมรับและเคารพในความหลากหลายของบุคลากรที่ประกอบไปด้วยความแตกต่างในด้านเชื้อชาติ สัญชาติ และวัฒนธรรม พร้อมขับเคลื่อนนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบทั่วทั้งองค์กร เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและเท่าเทียม

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟได้ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจประเมินสถานะด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (HRDD) ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน การบูรณาการมาตรการเพื่อบรรเทาความเสี่ยงและลดผลกระทบเชิงลบ ตลอดจนถึงการติดตามและรายงานผลการดำเนินงาน อีกทั้ง ยังมุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง ยอมรับและให้คุณค่ากับความหลากหลาย (DEI) อาทิ การจ้างงานคนพิการ แรงงานข้ามชาติเป็นพนักงานของบริษัท การส่งเสริมให้ความรู้พนักงานโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางมีความเข้าใจในสิทธิแรงงาน แนวปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมทั้ง 19 ชมรม ซึ่งสะท้อนถึงค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร เช่น ชมรม LGBTQ+ ชมรมครอบครัวอบอุ่น และชมรม Happy Life เป็นต้น

บริษัทยังให้ความสำคัญกับการยกระดับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามหลักการของความเท่าเทียมผ่านโครงการแบ่งปันความรู้เพื่อลดความไม่เท่าเทียมทางการศึกษา เช่น โปรแกรมทุนการศึกษาสำหรับพนักงานและบุตร การพัฒนาหลักสูตรกับมหาวิทยาลัยผ่านโครงการ Co-Creation และโครงการ CONNEXT ED เป็นต้น
จากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ซีพีเอฟได้รับการยอมรับผ่านรางวัลทั้งในระดับชาติและระดับสากล ได้แก่ รางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2567 จากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งซีพีเอฟได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2567 ระดับดีเยี่ยมติดต่อกันเป็นปีที่ 8 และรางวัลดีเด่นด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงได้ร้บรางวัลรองชนะเลิศ “UN Women 2022 Thailand WEPs Awards” ในสาขาสถานที่ทำงานที่มีความเท่าเทียมทางเพศ จากองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women
กำลังโหลดความคิดเห็น