xs
xsm
sm
md
lg

“วีริศ”แจงปรับปรุงรถไฟมือสองญี่ปุ่น  KIHA 40/48 คาดปีนี้เสร็จ 6 คันเปิดบริการประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • ชิ้นส่วนถูกขนส่งไปยังโรงงานมักกะสันเพื่อปรับปรุง
  • • คาดว่าจะปรับขนาดตัวรถให้เหลือ 1 เมตร
  • • การประกอบตัวรถคาดใช้เวลา 30 วันต่อคัน
  • • ปี 2568 จะมีรถ 6 คันพร้อมให้บริการประชาชน


“วีริศ” เผยคืบหน้าปรับปรุงรถไฟมือสองญี่ปุ่น KIHA 40/48 ถอดแคร่ออกทั้ง 20 คัน ขนไปโรงงานมักกะสันแล้ว คาดปรับขนาด 1 เมตร ใช้เวลา 30 วันประกอบตัวรถ ปี 68 ปรับปรุงเสร็จ 6 คันเปิดบริการประชาชนเสริมทัพขบวนรถโดยสาร


วันที่ 24 มี.ค. 2568 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ KIHA 40 และ 48 จำนวน 20 คัน ที่ได้รับมอบ(บริจาค) จากประเทศญี่ปุ่นมาปรับปรุงเพื่อเสริมศักยภาพการเดินรถโดยสารว่า ขณะนี้ได้มีการถอดแยกแคร่ออกจากตัวรถ และขนย้ายแคร่รถไปยังโรงงานมักกะสันเพื่อปรับขนาดเพลาล้อให้เข้ากับมาตรฐานรางของประเทศไทยที่กว้าง 1 เมตรแล้ว คาดว่าใช้เวลาประมาณ 25 -30 วัน ก่อนจะส่งกลับไปที่ สถานีแหลมฉบังเพื่อประกอบเข้ากับตัวรถ

​หลังจากนั้น ขบวนรถจะถูกนำกลับมายังโรงงานมักกะสันอีกครั้ง เพื่อปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยจะมีการตรวจสอบอุปกรณ์ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นระบบส่วนล่าง ระบบส่งกำลัง ระบบห้ามล้อ รวมถึงการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะใช้เวลาประมาณ 60 วัน หลังจากนั้นจึงจะนำรถไปทดสอบระบบต่าง ๆ คาดว่าจะเป็นช่วงประมาณปลายเดือนมิถุนายน เพื่อตรวจสอบทางด้านวิศวกรรม เช่น อัตราเร่ง ระยะห้ามล้อ ติดตั้งระบบ Vigilance ตรวจสอบการสั่นสะเทือนทางกล และระบบเครื่องปรับอากาศ เมื่อทดสอบเสร็จแล้วจึงจะนำกลับมาปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขา 


ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จได้ภายในปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบ 20 คันต่อไป เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการ

การรถไฟฯ ยังมีแผนนำขบวนรถดังกล่าวมาเปิดให้บริการเสริมทัพขบวนรถโดยสารชานเมือง (FEEDER) เพื่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างปริมณฑลและกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเมืองอย่างไร้รอยต่อ ตลอดจนสามารถรองรับปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้นของพี่น้องประชาชนให้เดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย


สำหรับขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศที่การรถไฟฯ ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST จำนวน 20 คัน ประกอบด้วย ขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น 40 จำนวน 9 คัน ซึ่งมีห้องขับสองด้าน (Double Cab) ความจุสูงสุด 65 ที่นั่ง/ตู้ แบ่งเป็นเบาะรูปแบบนั่งยาว 2 คัน และนั่งขวาง 7 คัน รวมทั้งมีห้องสุขาทั้งสองด้าน และขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น 48 จำนวน 11 คัน ซึ่งมีห้องขับเพียงหนึ่งด้าน (Single cab) และห้องสุขาอีกหนึ่งด้าน มีเบาะรูปแบบนั่งยาวทั้งคัน ความจุสูงสุด 82 ที่นั่ง/ตู้

ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นได้มอบขบวนรถโดยสารให้กับประเทศไทยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา รวมแล้วทั้งสิ้น จำนวน 5 ครั้ง จากทั้งบริษัท JR West และ JR Hokkaido โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 และเป็นครั้งแรกที่การรถไฟฯ ได้รับขบวนรถโดยสารจากบริษัท JR EAST เพื่อนำมาปรับปรุงและใช้ในกิจการรถไฟเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน


“การรถไฟฯ มั่นใจว่า ขบวนรถดีเซลราง KIHA 40 และ 48 จะเข้ามาช่วยเสริมทัพขบวนรถโดยสารชานเมือง เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางของผู้ใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้ได้รับการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนทำงานที่ใช้บริการเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะเป็นการยกระดับคุณภาพการเดินทางของประชาชนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง บรรเทาปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม และช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน” นายวีริศ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น