- • ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาหู จมูก คอ
- • เปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ "N" เป็นไลน์สินค้าเรือธงลำที่สอง
- • ขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ใหญ่
- • อัดงบประมาณการตลาดสูงสุด 10 ล้านบาท
ผู้จัดการรายวัน 360- "TINY NOSE" เดินเกมส์บุกสู่ทศวรรษที่ 2 ปักธงเป็นเบอร์ 1 ในตลาด ENT (Ear, Nose, Throat) เติมเต็มไลน์สินค้าใหม่ พร้อมขยายทาร์เก็ตสู่กลุ่มผู้ใหญ่ ล่าสุดอัดงบสูงสุด 10 ล้านบาท เปิดตัวไลน์สินค้ากลุ่ม N เรือธงเป็นตัวที่ 2 คือ สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกสำหรับเด็ก และปีหน้าจัดต่อส่งสินค้ากลุ่ม T เกี่ยวกับช่องปากและคอเป็นเรือธงตัวที่ 3 มั่นใจรายได้เติบโต 7-10% ต่อเนื่องใน 5 ปีนับจากนี้ ส่วนปีนี้เชื่อรายได้ไม่ต่ำกว่า 45 ล้านบาท โตกว่า 2 เท่าจากปีก่อน
.
นายวรวิทย์ วงศ์ศรีรุ่งเรื่อง ผู้อำนวยการ บริษัท เฌอร์คุณฎา จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เด็กภายใต้แบรนด์ "TINY NOSE" เปิดเผยว่า TINY NOSE เริ่มต้นจากการเป็นแบรนด์ทิชชูเปียกน้ำเกลือสำหรับเด็กรายแรกของไทยเมื่อ 8 ปีก่อน จนเป็นที่รู้จักในฐานะผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก โดยมีสินค้าจำหน่ายอยู่หลายรายการ เช่น ทิชชูเปียกน้ำเกลือสำหรับเด็ก, เจลอาบน้ำ, มาส์กโลชั่น และ Magic Water
แต่พอเจอสถานการณ์โควิด 19 จึงได้ยุติการผลิตและจำหน่ายสินค้าตัวอื่นๆ ลง คงไว้เพียง ทิชชูเปียกน้ำเกลือสำหรับเด็กเท่านั้น ซึ่งในแง่รายได้นับจากโควิดเป็นต้นมา ยังเติบโตไม่เกิน 10% ทั้งนี้จากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้เราตระหนักว่าโรคติดเชื้อทางเดินหายใจร้ายแรงกว่าที่คิด จึงนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกละอองหมอกสำหรับเด็กรายแรกและรายเดียวจากฝีมือของผู้ประกอบการไทย กับ "Salinex Mist Baby" ภายใต้แบรนด์ TINY NOSE วางจำหน่ายตั้งแต่ปลายปี 2567 เป็นต้นมา
”สถานการณ์โควิด 19 ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัทเปลี่ยนทิศทางธุรกิจใหม่ จากที่มุ่งตลาดแม่และเด็ก มาสู่ตลาด ENT (Ear, Nose, Throat) แทน และขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่กลุ่มผู้ใหญ่ด้วย เพราะสินค้าสำหรับเด็กที่ทำอยู่เป็นกลุ่มเฉพาะสำหรับเด็กอายุ 0-18 เดือนเท่านั้น บวกกับปัจจุบันอัตราการเกิดน้อยลง และไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วย แผนธุรกิจในครั้งนี้จึงเป็นถือเป็นแผน 2.0 ของ TINY NOSE ที่ก้าวสู่ทศวรรศที่ 2 ด้วยการมุ่งสู่เบอร์ 1 ในตลาด ENT“
โดยแผนงานนำเสนอสินค้าให้ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่มในตลาด ENT โดยได้เปิดตัวไลน์กลุ่มสินค้าใหม่ตัวที่ 2 คือ N หรือ Nose จะเป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกละอองหมอกสำหรับเด็ก "Salinex Mist Baby" ภายใต้แบรนด์ TINY NOSE ออกมาแล้วเมื่อปลายปี ล่าสุดปีนี้ Salinex Mist Baby ได้คอลแลบแอนิเมชันระดับโลก "Cocomelon" ซีรีส์แอนิเมชันที่ได้รับความนิยมจากเด็กทั่วโลก นำคาแรกเตอร์มาครีเอตดีไซน์พิเศษบนบรรจุภัณฑ์ สเปเชียลเอดิชัน 3 ดีไซน์ ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์ Salinex Mist Baby เป็น 4 SKU และในไตรมาส 3 จะเพิ่มอีก 2 SKU ในกลุ่มเซกเม้นท์ผู้ใหญ่ หรือตลอดทั้งปีนี้จะมีสินค้าใหม่ใหม่ไม่ต่ำกว่า 8 SKU ทั้งในกลุ่มทิชชูเปียกน้ำเกลือสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ และสเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกละอองหมอกสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ภายใต้งบการตลาดปีนี้ที่ใช้มากสุดกว่า 10 ล้านบาทตั้งแต่ทำตลาดมา
สำหรับ Salinex Mist Baby มีคุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่นจากสเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกที่มีอยู่ในท้องตลาดโดยใช้นวัตกรรม Ultra-Micro Difuser ที่ทำให้ได้น้ำเกลือละอองละเอียด หายใจสดชื่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้โพรงจมูก พร้อมหัวสเปรย์ที่ออกแบบสำหรับจมูกของเด็ก เหมาะสำหรับเด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไป ขณะเดียวกันเด็กโตและ ผู้ใหญ่ก็สามารถใช้ได้ดี จำหน่ายผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านขายยา และช่องทางออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ช้อปปี้ และติ๊กต๊อก บรรจุในขวดขนาด 80 มล. ราคาขวดละ 325 บาท ตั้งเป้าหมายยอดขาย Salinex Mist Baby ในปี 2568 ไว้ที่ 120,000 - 140,000 ขวด หรือตลอด 5 ปีนับจากนี้ ตั้งเป้าเติบโต 7-10%
ทั้งนี้ Salinex Mist Baby ถือเป็นสินค้ากลุ่มเครื่องมือแพทย์ จัดอยู่ในกลุ่มตลาดน้ำเกลือที่มีมูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.แบบขวด 96% และ 2.อื่นๆ 4% โดย Salinex Mist Baby จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ขณะที่เฉพาะตลาดสเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก พบว่ามีมูลค่า 120 ล้านบาท เติบโต 5-7% ต่อปีและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีผู้เล่นอยู่ 6-7 แบรนด์ ทั้งหมดเป็นอินเตอร์แบรนด์ และมีผู้เล่นหลักเพียงแบรนด์เดียว และมีราคาสูงกว่าของ TINY NOSE ร่วม 50%
ส่วนไลน์สินค้ากลุ่มที่ 3 คือ Throat จะเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับช่องปากและคอ โดยมีแผนจะเปิดตัวในปีหน้า อาจเป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นคอ หรือยาอมเกี่ยวกับอาการเจ็บคอ หรือภูมิแพ้ ซึ่งมีทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่เช่นกัน ส่วนตลาดทิชชูเปียกสำหรับเด็กนั้นก็เติบโตเพียง 1 หลักเท่านั้น จากที่ 4 ปีก่อนตลาดทิชชูเปียกสำหรับเด็กมีมูลค่า 1,400 ล้านบาท เฉพาะกลุ่มทิชชูเปียกน้ำเกลือถือเป็นพรีเมี่ยมเซกเม้นท์มีส่วนแบ่งในตลาดไม่ถึง 100 ล้านบาท และมึราคาสูงกว่าปกติ 45-50% ปัจจุบันมี TINY NOSE ทำตลาดอยู่แบรนด์เดียว โดยในปีที่ผ่านมา TINY NOSE มียอดขายกว่า 20 ล้านบาท และในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมไว้อย่างน้อย 45 ล้านบาท มาจากทิชชูเปียกน้ำเกลือ และสเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก ที่ 50% เท่าๆ กัน