- • ปี 2568 แมคโดนัลด์จะลงทุน 700 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ 20 แห่ง
- • บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้อีก 10% ในปี 2568 โดยใช้กลยุทธ์ 3 ประการ (รายละเอียดกลยุทธ์ไม่ได้ระบุในเนื้อหาที่ให้มา)
ผู้จัดการรายวัน 360 – “แมคโดนัลด์” ทุบสถิติรายได้ปี 67 ทะลุ 7.9 พันล้านบาท สูงสุดรอบ 39 ปี เดินหน้าลุยปี68 ทุ่มงบรวม 700 ล้านบาท เพิ่มใหม่ 20 สาขา ชู 3 กลยุทธ์รุกดันเป้ารายได้โตอีก10% ปีนี้
นางสาวกิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บาิหารร้านแมคโดนัลด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีนี้ บรรยากาศยังคงมีความคึกคักในการจับจ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลมาจากยังอยู่ในช่วงต้นปี และมีมาตรการอีอีสซี่ย์รีซีท จึงยังมีการใช้จ่ายที่ดี แต่บริษัทก็มอนิเตอร์สถานการณ์โดยรวมตลอดเพื่อปรับตัวใหเข้ากับสถานการณ์
ในปี 2568 บริษัทวางงบการลงทุนรวมไว้ที่ 700 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายปีนี้ไว้ที่ 20 สาขาในทุกโมเดล ขณะที่ปีที่แล้วเปิดใหม่ประมาณ 18 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ จากปัจจุบันมีประมาณ 240 สาขา แต่ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศจึงยังมีโอกาสขยายได้อีกมาก
รวมทั้งแผนการรีโนเวทร้านสาขาเดิมจำนวน 25 สาขา ภายใต้ 3 คอนเซ็ปต์หลัก ได้แก่ ‘Geometry’ โมเดิร์น ทันสมัย สีสันสดใส, ‘Essential Ingredients 2.0’ ถ่ายทอดแบรนด์บนศิลปะป๊อปอาร์ต และคอนเซปต์ ‘CUBE’ ถ่ายทอดแบรนด์ผ่านชิ้นงานกราฟฟิก
สำหรับผลประกอบการปี 2567 ทำยอดขายได้ถึง 7,957 ล้านบาท เติบโต 10% และกำไรเติบโต 11% โดยถือเป็นยอดขายที่สูงที่สุดทุบสถิติในรอบ 39 ปีที่แมคไทยเปิดดำเนินการ และเป็นการเติบโตต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว ส่งผลให้แมคเป็นผู้นำตลาดเบอร์เกอร์ในไทยต่อเนื่อง ขณะที่เซ็กเมนต์ไก่ทอดแมคก็เติบโต 33% โดยสัดส่วนรายได้มาจาก เบอร์เกอร์ 55% รองลงมาคือ ไก่ทอด 20% และอื่นๆ ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต10% และคาดว่าจะบรรลุรายได้ 10,000 ล้านบาทได้ในอีกไม่กี่ปีนี้
จากตลาดรวมฟาสต์ฟู้ดหรือคิวเอสอาร์ในไทยที่มีมูลค่ามากกว่า 47,000 ล้านบาท โดยเป็นเซ็กเมนต์เบอร์เกอร์มากถึง 11,000 ล้านบาท และเป็นเซ็กเมนต์ไก่ทอดมากที่สุด 27,000 ล้านบาท และมีเซ็กเมนต์พิซซ่าที่รองลงมา
ทั้งนี้นโยบายรุกตลาดในปี 2568 ยังคงมุ่งเน้นที่ 3 กลยุทธ์หลักคือ 1. การสร้างความคุมค่าให้กับผู้บริโภค ในยุคที่ลูกค้ามองหาความ“คุ้มค่า” มากขึ้น การมี Value Platform ที่เข้มแข็งจึงยังช่วยทำให้ลูกค้าเข้าถึงเราได้ง่ายขึ้นในทุกๆ วัน เช่น ชุด ‘EVM’ (Everyday Value Meals) ราคา99 บาท รวมถึง ชุด ‘McSavers 1+1’ ราคา 55 บาท นอกจากนี้ยังมี แอปพลิเคชันคูปอง GMAL มอบคูปองชุดอาหารที่หลากหลาย ราคาประหยัดได้สูงสุดถึง 50% โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด แอปคูปอง GMAL มากกว่า 4.7 ล้านคน
2. เร่งขยายตลาดไก่ทอด โดยการสร้างแบรนด์เลิฟ ด้วยพรีเซนเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ แฟนไก่ทอดแมคตัวจริง เสริมทัพด้วยพลังแห่งแฟนด้อม และในปี 2568 ก็ยังคงต่อยอดความสำเร็จด้วยคอนเซปต์ ‘กรอบ ชุ่มฉ่ำ อร่อย ใหญ่ทุกชิ้น’ และ พรีเซนเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ กลุ่ม Gen Z เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น คาดโตเพิ่มมากกว่า 15% ในปี 2568
3. ครองตำแหน่งผู้นำตลาดเบอร์เกอร์อับดับ 1 ในไทย แมคโดนัลด์ ยังคงพัฒนาเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอย่างต่อเนื่อง และเมนูยอดนิยมอย่าง ‘ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์’ , ‘บิกแมค’ หรือ ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ วิทชีส นอกจากนี้ เช่น ‘มั่งมีเบอร์เกอร์’ เบอร์เกอร์ทรงยาว และ ‘ซามูไร ดีลักซ์ เบอร์เกอร์’ ที่พัฒนาต่อยอดความอร่อยจากเมนูฮิต ตลอดกาล ‘ซามูไรเบอร์เกอร์’
ในแง่ของสิ่งแวดล้อม บริษัทตั้งเป้าบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 100% ภายในปี 2568เพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกย่อยสลายได้ และลดการใช้พลาสติก ซึ่งปัจจุบัน แมคโดนัลด์ได้เริ่มเปลี่ยนสู่บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกโดยใช้วัสดุกระดาษซึ่งผ่านการรับรองจากสถาบัน ‘Forest Stewardship Council™ (FSC)’ ตามมาตรฐานการจัดการผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ที่ถูกต้อง เช่น กระดาษห่อเบอร์เกอร์, ถุงกระดาษบรรจุเมนูอาหาร, ถ้วยกระดาษใส่ซอส และภายในไตรมาสที่ 2 นี้ จะเพิ่มในส่วนของ กล่องกระดาษบรรจุเมนูข้าว กล่องกระดาษบรรจุซอสดิปต่างๆ และกล่องบรรจุภัณฑ์ไก่ทอดพร้อมฝาปิดแบบกระดาษ โดยตั้งเป้าเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกครบ 100% ภายในปี 2568
นางสาวกิตติวรรณ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาเทคโนโลยี ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยปีที่ผ่านมาได้ติดตั้งเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติครบทุกสาขาแล้ว และตั้งเป้าให้ทุกสาขาใหม่ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้จะต้องมีเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ
