สมอ.เซ็นความร่วมมือกับ BSI นำมาตรฐานอังกฤษมาใช้อ้างอิง

“กระทรวงอุตฯ” จับมือสถาบันมาตรฐานสหราชอาณาจักร (BSI) ยกระดับมาตรฐานไทยสู่สากล

ตามที่ไทยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (Enhanced Trade Partnership: ETP) กับสหราชอาณาจักร จำนวน 20 สาขา เมื่อปี 2567 ซึ่งมีสาขาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 3 สาขา ได้แก่ ยานยนต์ (Automotive) การมาตรฐาน (Standards) และ อุปสรรคเทคนิคทางการค้า (Technical Barriers to Trade) โดยเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ลงนาม MOU กับสถาบันมาตรฐานสหราชอาณาจักร (The British Standards Institution - BSI) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับแผนการดำเนินงานด้านการมาตรฐาน ทั้งมาตรฐาน ISO และ IEC พัฒนาความสามารถ การตรวจสอบรับรอง รวมทั้งการส่งเสริมมาตรฐาน เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการมาตรฐานระหว่างประเทศ และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรในอนาคต


นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือกับสถาบันมาตรฐานสหราชอาณาจักรในครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยสามารถนำมาตรฐานของสหราชอาณาจักรมาใช้อ้างอิงในการกำหนดมาตรฐานของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากขึ้น เช่น มาตรฐานเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก เครื่องเล่นสนาม ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว สายสวนปัสสาวะ กระจกแผ่นสีตัดแสง และคอนกรีตอัดแรง เป็นต้น รวมทั้งยอมรับผลทดสอบซึ่งกันและกัน ซึ่งหลังจากนี้ทั้งสองประเทศจะมีการประชุมหารือเพื่อร่วมกำหนดแนวทางการดำเนินงานในด้านมาตรฐานต่างๆ ต่อไป

สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป โดยในปี 2567 มีปริมาณการค้าทวิภาคีรวมกว่า 234,400 ล้านบาท โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังสหราชอาณาจักรกว่า 146,900 ล้านบาท และนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาจักรกว่า 87,500 ล้านบาท สินค้าหลักของไทยที่ส่งออกไปยังสหราชอาณาจักร ได้แก่ ไก่แปรรูป รถยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ฯลฯ ขณะที่สินค้าหลักที่ไทยนำเข้าจากสหราชอาณาจักร ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่มและสุรา สินค้าเวชภัณฑ์ เป็นต้น