กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กำหนดวันยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจบนบก ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 1-16 ก.ค.นี้ และประกาศรายชื่อผู้ได้สัมปทานปลายปี 68 ส่วนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมในทะเลฝั่งอันดามัน ครั้งที่ 26 เริ่มปลายปีนี้ มั่นใจบริษัทต่างชาติแห่ชิงสิทธิสำรวจฯ
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในปี 2567 การใช้ไฟฟ้าของประเทศมีอัตราเพิ่มสูงถึง 6%หรือมากกว่า 2.2 แสนล้านหน่วย ซึ่งเป็นการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของทุกเซ็กเตอร์ทั้งภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจและประชาชน โดยพีคไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 36,792 เมกะวัตต์ คาดว่าปีนี้พีคการใช้ไฟฟ้าสูงสุดใกล้เคียงปีก่อน
ขณะที่การใช้ไฟฟ้าสูงสุดเกิดช่วงกลางคืน บ่งบอกว่ามีการติดโซลาร์ รูฟท็อปเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมบนบกรอบที่ 25 จะช่วยรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของรถไฟฟ้า(อีวี)และโครงการดาต้า เซ็นเตอร์ ช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า ที่ผ่านมา การผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้อยู่แล้ว แม้ว่าปี2567 แหล่งเอราวัณได้เพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯตามสัญญาที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน แต่ไทยก็ต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)เป็นจำนวนมาก โดยนำเข้าLNGตามสัญญาระยะยาว 5.2ล้านตันและนำเข้าLNGในรูปSpotอีก 94 ลำสูงเป็นประวัติการณ์
การเปิดสัมปทานแปลงปิโตรเลียมบนบก รอบที่ 25 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หากพบว่าแหล่งก๊าซฯก็จะช่วยรักษาเสถียรภาพการผลิตไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้มั่นคงขึ้น และจะอาจต้องมีโรงไฟฟ้าหลักในภาคอีสาน
นายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวภายหลังจัดสัมมนาสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจบนบก (ครั้งที่ 25) จำนวน 9แปลง ภายใต้ระบบสัมปทาน เมื่อวันที่6 มี.ค.2568ว่า ขณะนี้มีบริษัทสนใจมาศึกษาข้อมูลเบื้องต้น (Data room) เช่น ศักยภาพตลอดจนข้อมูลของแปลงที่เปิดให้ยื่นขอสิทธิฯ หลักเกณฑ์เงื่อนไข รวมถึงขั้นตอนในการจัดทำข้อเสนอการยื่นขอสิทธิฯแล้ว 5-6รายส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะเปิดให้นักลงทุนที่สนใจสามารถจองใช้บริการห้องศึกษาข้อมูลได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 และเปิดให้บริษัทที่สนใจยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมยื่นซองคำขอและข้อเสนอระหว่างวันที่ 1-16 กรกฎาคม 2568 โดยจะประกาศรายชื่อบริษัทที่ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในปลายปี 2568
การเปิดสัมปทานให้สำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงบนบก ครั้งที่ 25 เราคาดหวังว่าจะพบก๊าซฯในแปลงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วยสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานป้อนให้โรงไฟฟ้าน้ำพอง ที่จังหวัดขอนแก่น ขณะที่ภาคกลางตอนบนโดยมีโอกาสน้ำมันดิบ ส่วนการเปิดให้สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในทะเลน้ำลึกฝั่งอันดามัน รอบที่ 26 คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลในปลายปีนี้ เบื้องต้นน่าจะได้รับความสนใจมากจากบริษัทต่างชาติรายใหญ่ เนื่องจากอินโดนีเซียมีการสำรวจพบปิโตรเลียมขนาดใหญ่ในฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งอดีตไทยเคยเปิดสัมปทานเมื่อปี 2548 แต่ไม่มีการขุดพบปิโตรเลียมเลยก็ตาม
นายวรากร กล่าวถึงแหล่งปิโตรเลียมที่ใกล้หมดอายุสัมปทานว่า มี 3แหล่งที่ใกล้หมดอายุสัมปทาน คือแหล่งไพลิน แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ หรือS1 และแหล่งสินภูฮ่อม โดยแหล่งไพลิน ทางผู้ดำเนินการ คือเชฟรอนได้ยื่นขอต่ออายุสัมปทานมาแล้ว ตามเงื่อนไขต่ออายุได้อีก 10ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการปิโตรเลียมก่อนเสนอครม.ต่อไป ส่วนแหล่งS1และแหล่งสินภูฮ่อม ไม่สามารถต่ออายุสัมปทานได้อีกหลังจากได้ต่อไปแล้ว 10ปี ซึ่งจะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2574 แต่เนื่องจากแหล่งS1ยังมีการผลิตน้ำมันดิบ และแหล่งสินภูฮ่อมมีการผลิตก๊าซฯป้อนให้โรงไฟฟ้าน้ำพอง หากเปิดสัมปทานใหม่แล้วได้ผู้รับสัมปทานรายใหม่อาจจะมีผลต่อความต่อเนื่องในการผลิตไฟฟ้าได้ เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับแหล่งเอราวัณ ดังนั้น ทางกรมฯอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจจะต้องแก้ไขพ.ร.บ.ปิโตรเลียม ฉบับที่ 7 เพื่อให้รายเดิมสามารถต่ออายุสัมปทานได้ โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศสูงสุด
การเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจบนบก (ครั้งที่ 25) จำนวน 9 แปลง ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ จำนวน 7 แปลง บริเวณจังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ และพื้นที่ภาคกลางจำนวน 2 แปลง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรี รวมเป็นขนาดพื้นที่ 33,444.64 ตารางกิโลเมตร
