- • การออกแบบอาคารเน้นแนวคิดป่าหิมพานต์ผสมผสานสถาปัตยกรรมและศิลปะไทย
- • การออกแบบได้รับการยกย่องในระดับโลก
- • ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมความพร้อมอย่างดีสำหรับการเสด็จฯ
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ เปิดอาคาร SAT-1 และรันเวย์ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 20 มี.ค.นี้ ทอท.เตรียมความพร้อม เผยแนวคิดออกแบบของป่าหิมพานต์ ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม ศิลปะสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่ได้รับการยกย่องระดับโลก
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจํากัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ภายหลังพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ซึ่งทอท.และกระทรวงคมนาคม และทุกภาคส่วนได้เตรียมความพร้อมสำหรับพระราชพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 เวลา 17.00 น. โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะปิดพื้นที่ด้านตะวันออก ของอาคาร SAT-1 ซึ่งไม่กระทบต่อให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสาร
สำหรับ อาคาร SAT-1 ได้รับการยกย่องระดับโลกในสาขาสถาปัตยกรรมดีเด่นด้านรูปลักษณ์อาคาร (Exterior) การตอบรับของผู้โดยสารมีความพึงพอใจมาก เนื่องจากอาคาร SAT-1 มีแนวคิดออกแบบของป่าหิมพานต์ มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม ศิลปะที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรม เอกลักษณ์ความเป็นไทย มีการนำสัตว์ในวรรณคดี และ ช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติ ตกแต่งเป็นไฮไลท์ ส่วนห้องน้ำออกแบบจากวัฒนธรรม 4 ภาค ของไทย
@รับไฟลท์อินเตอร์ 150 เที่ยวบินต่อวัน คาดปลายปีเพิ่ม 250 เที่ยวบิน
อาคาร SAT-1 เปิดใช้ตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 หลุมจอดประชิดอาคารทั้งหมด 28 หลุมจอด ใช้งานทั้งหมด รองรับได้ 15 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันมีสายการบินระหว่างประเทศมาใช้ 150 เที่ยวบินต่อวัน จากเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด 600 เที่ยวบิน หรือคิดเป็น 30% ช่วยลดความแออัดของอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) ขณะที่อาคาร SAT-1 สามารถรองรับได้เต็มที่ 300-350 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งปริมาณค่อยๆ เพิ่ม โดยช่วง ตารางบินฤดูหนาว คาดจะมีเที่ยวบินประมาณ 250เที่ยวบินต่อวัน
ได้มากซึ่งเมื่อปี 2562 สุวรรณภูมิมีผู้โดยสารระหว่างประเทศ 52 ล้านคน แต่ยังไม่มีอาคาร SAT-1มีเพียงอาคารหลักที่มี 51 หลุมจอดทำให้ไม่เพียงพอ และเกิดความแออัด ต้องใช้หลุมจอดระยะไกลและใช้รถรับส่งผู้โดยสารมายังอาคารผู้โดยสารเกิดความไม่สะดวกสบาย
อาคาร SAT-1 พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 250,000 ตารางเมตร ออกแบบโปร่งโล่ง ไม่แออัด มีพื้นที่พักคอยของผู้โดยสาร และมีห้องรับรองสายการบิน (เล้านจ์) ให้ผู้โดยสารมีทางเลือกใช้บริการมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเล้านจ์ของสายการบินเอมิเรตส์ เปิดแล้ว เหลือเล้านจ์ของสายการบินกาตาร์ ,การบินไทยและสายการบิน Star Alliance ซึ่งยื่นแสดงความจำนงค์ มาแล้วคาดว่าจะสร้างเสร็จเปิดให้บริการได้ในกลางปี 2569 และมีพื้นที่ร้านค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งเปิดบริการเกือบ 90% แล้ว
นายกีรติกล่าวว่า อาคาร SAT-1 มีความสวยงาม สะดวกสบาย ทอท.คาดหมายว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญ ในการทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคในการเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร เนื่องจาก GATE ออกแบบเปิด ที่เชื่อมต่อกันได้ รองรับการเดินทางปลี่ยนเที่ยวบิน Transit Tranfer สะดวกทำให้ศักยภาพของสนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่มเป็น 65 ล้านคนต่อปี โดยในปี 2567 มีผู้โดยสารรวมที่ 60 ล้านคน ปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 64 ล้านคน
สำหรับทางวิ่งเส้นที่ 3 เปิดใช้เต็มรูปแบบ เมื่อเดือน พ.ย.2567 เพิ่มการรองรับจาก 64 เที่ยวบิน/ชม.เป็น 96 เที่ยวบิน/ชม. ซึ่งการรองรับเที่ยวบินมากขึ้น แก้ปัญหาเครื่องบินบินวนรอลงจอด หรือต่อแถวคอยเพื่อรอบินขึ้น หายไป และแก้คอขวด ของพื้นที่ Airside ด้วย