ตำรวจเผยคดีเครนก่อสร้าง ถ.พระราม 2 ถล่ม สอบปากคำไปแล้ว 27 ปาก ดำเนินคดีต่อ "อุดมศักดิ์เชียงใหม่ และพีเอสซีไอ" 2 บริษัทรับเหมา ฐานใช้แรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ และความปลอดภัยอาชีวะอนามัยแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. พล.ต.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีเหตุเครนก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกำกับ ดูแล การสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ขึ้นอีกต่อไป เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
พล.ต.ต.อุทัยกล่าวว่า เหตุดังกล่าวได้เกิดขึ้นซ้ำมาหลายครั้งแล้ว มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง จึงได้เร่งรัด กำชับ การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ จึงได้จัดประชุมเร่งรัดการสำนวนสอบสวนขึ้นเป็นครั้งที่ 3
โดยขณะนี้ชุดพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องได้ 27 ปาก และได้ดำเนินคดีต่อ บริษัท พีเอสชีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ในความผิดเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิไปแล้ว
และดำเนินคดีต่อ บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด และบริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ในความผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยอาชีวะอนามัยและสภาพแวดล้อมของการทำงานฯ ไปแล้ว
พล.ต.ต.อุทัยกล่าวว่า ยังคงเหลือเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานจากกรมทางหลวง (ทล.) เพื่อทราบรายละเอียดร่างขอบเขตของงาน (TOR) คุณสมบัติผู้ประมูลงาน การให้รับเหมาช่วง และแผนการสอบสวน นายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์, นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และความเห็นของผู้ชำนาญการด้านวิศวกรรม ซึ่งได้มีการติดต่อไปแล้ว อยู่ระหว่างการตอบรับเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุ และผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการเกิดเหตุครั้งนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีสำคัญกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย และกระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง กระทบต่อมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ จึงได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้เป็นคดีตัวอย่างในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มประสิทธิภาพและเป็นธรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ซ้ำขึ้นอีกในเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบบนถนนพระราม 2 ต่อไป