xs
xsm
sm
md
lg

Tact นำ AI เสริมแกร่ง ESG Management ด้วย Microsoft Cloud for Sustainability

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

  • • เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการรายงาน ESG
  • • ช่วยองค์กรไทยแข่งขันได้ดีขึ้นในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
  • • Tact ให้บริการเป็นที่ปรึกษาและโซลูชันด้านกลยุทธ์ความยั่งยืนและ ESG


Tact ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ความยั่งยืนและโซลูชัน ESG นำเทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนการจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน ด้วย Microsoft Cloud for Sustainability เพื่อช่วยองค์กรไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้กติกาการค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ผ่านระบบการจัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุทั้งเป้าหมาย Net Zero และเป้าหมายความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ

Tact นำความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืน ผสานกับศักยภาพของ AI จากไมโครซอฟท์เพื่อช่วยองค์กรในส่วนของ Data Automation เพื่อลดความผิดพลาดจาก Human Error ทำให้การรายงาน ESG เป็นไปอย่างอัตโนมัติให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่ต้องการ เพื่อลดภาระงานและความซับซ้อนของการจัดการข้อมูล และ Analyticที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูล AI จะช่วยตรวจสอบแนวโน้ม และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

นายชยุตม์ สกุลคู Chief Executive Officer ของ Tact กล่าวว่า นับเป็นก้าวแรกที่เรานำ เทคโนโลยี AI จากไมโครซอฟท์ เข้ามาพลิกโฉมการบริหารจัดการ ESG ขององค์กร โดยในประเทศไทย หลายองค์กรเริ่มมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและรายงานข้อมูล ESG เพื่อตอบรับกับความคาดหวังของนักลงทุนและคู่ค้า แต่เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ทำให้หลายแห่งขาดองค์ความรู้และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงการจัดการรวบรวมข้อมูลที่มีความซับซ้อน จัดเก็บในลักษณะ Manual หรือบางชุดข้อมูลอาจอยู่นอกเหนือขอบเขตขององค์กร ทั้งหมดนี้คือความท้าทายของการสร้างความโปร่งใสเพื่อตอบรับกับมาตรฐานต่างๆที่มีความจำเป็นขึ้นเรื่อยๆ ในการดำเนินธุรกิจ การนำ AI เข้ามาใช้ในการบริการจัดการ ESG จึงเป็นแนวทางสำคัญที่จะสามารถปลดล็อกศักยภาพขององค์กร ให้สามารถจัดการกับรูปแบบของข้อมูลที่มีความแตกต่างและกระจัดกระจาย ช่วยองค์กรในวิเคราะห์หา Insight ที่สำคัญ และจัดทำรายงานความยั่งยืนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

“Tact มุ่งมั่นที่จะผลักดันภาคธุรกิจให้พร้อมต่อการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่แนวทางความยั่งยืน และ AI จะเป็นหัวใจสำคัญของอนาคต โดยสอดคล้องกับพันธกิจ Driving Sustainability Transformation ของเรา เพื่อช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถปรับตัวและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศได้อย่างแท้จริง”

นายวสุพล ธารกกาญจน์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า ไมโครซอฟท์เชื่อว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพช่วยเร่งให้การดำเนินงานด้านความยั่งยืนทั่วโลกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการโซลูชั่นต่าง ๆ ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และส่งเสริมการกำกับดูแล AI ผ่านการร่วมกับพันธมิตรของเรา ช่วยให้องค์กรธุรกิจต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน


ปัจจุบันองค์กรชั้นนำทั่วโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันในการบริหาร ESG ให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ Microsoft Cloud for Sustainability ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้โดยตรง โดยการนำโซลูชันนี้มาใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับการบริหาร ESG ได้อย่างเป็นระบบ แม่นยำ และสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว โดย Microsoft Cloud for Sustainability มี Use Case ที่เด่น ๆ ดังนี้

1.ESG data automation: ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่มีปริมาณมหาศาลและกระจัดกระจายในรูปแบบที่แตกต่างกัน การนำ AI เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลขาเข้าจึงเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยลดความซับซ้อนและภาระงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยเฉพาะกับข้อมูล manual เช่น บิลน้ำมันหรือบิลค่าไฟ ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยี OCR เข้ามาช่วยประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลที่อ่านได้ เข้าสู่ ESG data management platform โดยตรง ทำให้สามารถนำข้อมูลคุณภาพสูงไปใช้งานต่อได้ทันที พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความถูกต้องและความสามารถในการติดตามข้อมูล (data traceability) ตลอดจนยกระดับ productivity ของทีมงานโดยรวม

2. AI-driven analytics: การนำข้อมูล ESG ไปวิเคราะห์และใช้ในเชิงปฏิบัติยังเผชิญกับข้อจำกัด การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานในองค์กร เช่น สร้าง Forecasting model เพื่อพยากรณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะลดลงจากการทำโปรเจกต์ เพื่อให้เห็นภาพรวมและแนวโน้มในอนาคตก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ การนำ AI plug-in เข้ามาประยุกต์ใช้ในแดชบอร์ดช่วยให้ผู้ใช้งานที่ไม่ใช่สาย IT สามารถเจาะลึกข้อมูลเชิงลึกได้อย่างอิสระและครบถ้วน ส่งผลให้ได้ insights ที่มีประโยชน์ในการปรับปรุง ESG performance และสนับสนุนการตัดสินใจแบบ data-driven ภายในองค์กรอย่างแท้จริง

3. ESG Compliance and Benchmarking Insights: ในยุคที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูล ESG และถูกประเมินโดยมาตรฐานระดับโลก เช่น DJSI ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรต่อนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงมีความสำคัญสูง การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ gap analysis เพื่อเปรียบเทียบการดำเนินงานด้าน ESG กับมาตรฐานต่าง ๆ ช่วยระบุช่องว่างและข้อบกพร่องที่ต้องปรับปรุงได้ชัดเจน พร้อมทั้งใช้ AI ทำ benchmarking analysis เปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือมาตรฐานอุตสาหกรรมจากข้อมูลสาธารณะ ช่วยให้บริษัททราบตำแหน่งในตลาดและจุดที่ยังขาดตกบกพร่อง ส่งเสริมให้องค์กรพัฒนาการดำเนินงานด้าน ESG อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว

องค์กรที่ต้องการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของ ESG สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโซลูชันของ Tact ได้ที่ www.tact.in.th
กำลังโหลดความคิดเห็น